1. ความรู้
ขับเคลื่อนการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
2. ชื่อเจ้าของความรู้ นายธนโชติ
จันทร์ดวง
นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอหนองบัว
จังหวัดนครสวรรค์
3. องค์ความรู้ที่บ่งชี้
เทคนิคการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
4. ที่มาและความสำคัญในการจัดทำองค์ความรู้
การขับเคลื่อนการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
เป็นหลักการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ คือ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา เป็นบันได ๓
ขั้นสู่ความสำเร็จ
F การเข้าใจ คือ การสร้างให้เกิดความเข้าใจในข้อมูลพื้นฐาน
ด้วยการศึกษาข้อมูลทุกมิติของชุมชน ค้นหารากของปัญหา
และรวบรวมองค์ความรู้ของโครงการพระราชดำริทั่วประเทศ
Fการเข้าถึง
เป็นเรื่องการสื่อสารและสร้างการมีส่วนร่วม
โดยมุ่งสื่อสารสร้างความเข้าใจและความมั่นใจกับชุมชน ร่วมกันวิเคราะห์
ปัญหาและความต้องการของชุมชน และให้ชุมชนมีส่วนร่วมในกระบวน การพัฒนามากที่สุด
Fการพัฒนา
เป็นเรื่องของการเรียนรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพชุมชน สร้างทีมพี่เลี้ยง
การออกแบบหลักสูตรและเมนูการพัฒนา การศึกษาดูงาน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และฝึกปฏิบัติของชุมชน
รวมทั้งการให้ทีมพี่เลี้ยงให้คำแนะนำในชุมชน และติดตามสนับสนุนประเมินผล
จะเห็นได้ว่า บันไดทั้ง 3
ขั้น ที่มุ่งไปสู่การพัฒนาให้ชุมชนมีความเป็นเจ้าของและนำไปสู่ความยั่งยืนในที่สุด
ไม่เพียงแต่ปัจจัยภายในหมู่บ้านเท่านั้น
ที่จะทำให้การพัฒนาหมู่บ้านไปสู่ความสำเร็จ ปัจจัยภายนอกมีส่วนสำคัญไม่แพ้กันกับภายในหมู่บ้าน/ชุมชน
5. ปัญหาที่พบและแนวทางการแก้ไข
ปัญหา
1.
ราษฎรและครัวเรือนเศรษฐกิจพอเพียงขาดความเชื่อมั่นว่าการดำเนินชีวิตตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจะสามารถแก้ไขทุกข์ที่มีอยู่ในครัวเรือนและชุมชนได้
2.
ผู้นำชุมชน แกนนำ ตลอดจนเจ้าหน้าที่และผู้มีส่วนส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาหมู่บ้าน
ขาดความเข้าใจ จึงไม่สามารถเข้าถึง ที่จะนำไปสู่การพัฒนาหมู่บ้านฯ ได้
แนวทางแก้ไข
- สร้างขวัญและกำลังใจให้ครัวเรือนที่ดำเนินชีวิตตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจริงๆ
ด้วยการชมเชย ประกาศเกียรติคุณ เป็นต้น
ถึงแม้จะยังไม่สำเร็จก็ตามแต่ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น
(แต่ที่ผ่านมามักหยิบเอาครัวเรือนที่ประสบความสำเร็จด้วยปัจจัยอื่นขึ้นมายกย่อง
จึงไม่สามารถเป็นต้นแบบของครัวเรือนในชุมชนได้)
-
สร้างผู้นำชุมชน
แกนนำ ตลอดจนเจ้าหน้าที่และผู้มีส่วนส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาหมู่บ้าน ให้สามารเป็นต้นแบบ
หรือเป็นแบบอย่างในการดำรงชีวิต ด้วยปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
และสามารถเป็นที่เรียนรู้ได้ (ทำให้เขาดู ดีกว่าพูดกรอกหูให้เขาฟัง) จึงจาสามารถ
“เข้าถึง”
- เมื่อสามารถเข้าถึงแล้วจึงทำการพัฒนาไปด้วยกันได้
ทั้งที่บริบทของฐานะและอาชีพที่แตกต่างกัน
1. ประโยชน์ขององค์ความรู้
1) เป็นการสร้างความเข้าใจแก่ครัวเรือน/หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
2) สามารถปรับทัศนคติของ ผู้นำชุมชน แกนนำ
ตลอดจนเจ้าหน้าที่และผู้มีส่วนส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาหมู่บ้าน ให้
2. เทคนิคในการปฏิบัติงาน
ใช้หลักธรรมคุ้มครองโลก
2 ประการได้แก่ หิริ โอตัปปะ
1) หิริ (อ่านว่า
หิ-ริ,
หิ-หริ) แปลว่า ความละอายแก่ใจ ความละอายต่อบาป หิริ
หมายถึงความละอายใจตัวเองต่อการทำความชั่วความผิด
ต่อการประพฤติทุจริตทั้งหลายและความละอายใจตัวเองที่จะละเว้นไม่ทำความดีซึ่งควรจะทำให้เกิดมีในตน
นั่นหมายถึงผู้ผู้เขียนเองและผู้ที่จะไปทำหน้าที่ในการพัฒนาหมู่บ้าน
เกิดความละอายที่จะไม่ปฏิบัติตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
2) โอตตัปปะ (อ่านว่า
โอดตับปะ) แปลว่า ความเกรงกลัว หมายถึงความสะดุ้งกลัวต่อผลของความชั่ว
ต่อผลของความทุจริตที่ทำไว้ โอตตัปปะ เป็นอาการของจิตที่หวั่นไหวเมื่อจะทำความชั่ว
เพราะกลัวความผิดที่จะตามให้ผลในภายหลัง
เกิดขึ้นได้เพราะคิดถึงโทษหรือความทุกข์ที่จะเกิดขึ้นจากการทำชั่ว
จากการประพฤติทุจริตของตน เช่น ตัวเองเองต้องเดือดร้อน เกิดความเสียหาย
เสียทรัพย์สินเงินทอง เสียอิสรภาพ หรือถูกคนอื่นตำหนิติเตียน ถูกสังคมรังเกียจ
เป็นต้น โอตตัปปะ เป็นธรรมคุ้มครองโลกคู่กับหิริ
เพราะคนที่มีโอตตัปปะย่อมกลัวที่จะทำความผิด ทำให้งดเว้นจากการประพฤติต่างๆ ได้
อันเป็นเหตุให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข เกิดสันติภาพขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น