1.ชื่อองค์ความรู้ ขับเคลื่อนการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงอย่างยั่งยืนด้วยพลัง
อช.
2.ชื่อเจ้าของความรู้ นางขวัญสุดา
โลหะเวช ตำแหน่ง นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ
สังกัด
สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์
3.องค์ความรู้ที่บ่งชี้ เทคนิคการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
4.ที่มาและความสำคัญในการจัดทำองค์ความรู้
การพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
เป็นกระบวนการจัดการพัฒนาประชาชน พัฒนาหมู่บ้าน หรือชุมชน
ให้มีวิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นสังคม“อยู่เย็น เป็นสุข” ด้วยการน้อมนำปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9
มาเป็นแนวทาง ในการดำเนินงาน เน้นประชาชนเป็นศูนย์กลางการพัฒนาในการเสริมสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง
เป็นการพัฒนาชนบท โดยนำแนวทางการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริมาใช้ เพื่อเป็นตัวแบบหรือแนวทางให้กับหน่วยงาน
หมู่บ้าน หรือชุมชน ประชาชน นำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับการดำเนินงานในพื้นที่
ด้วยการประสานพลังระหว่างภาคี หรือพลัง ประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการ
ปราชญ์ชาวบ้าน องค์กรพัฒนาเอกชน เอกชน สถาบันการศึกษา และประชาชน ในพื้นที่ ซึ่งเกิดจากแนวคิดการบูรณาการ
ในด้านต่างๆ นำไปสู่กระบวนการเรียนรู้ เพื่อช่วยเหลือตนเอง และพึ่งตนเองได้ ซึ่งในการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงระดับพื้นที่นั้น
มีพัฒนากรทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงาน ส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดกลไก
และกระบวนการพัฒนาให้เป็นรูปธรรม และเกิดผลสำเร็จอย่างยั่งยืนตามเป้าหมาย
และตัวชี้วัดที่กรมการพัฒนาชุมชนกำหนด ซึ่งสอดคล้องกับตัวชี้วัดของกระทรวงมหาดไทยที่มุ่งจะให้เกิดการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจ
พอเพียงให้เป็นหมู่บ้านต้นแบบ ที่มีศักยภาพใน 4 ด้าน 32 ตัวชี้วัด
5. ปัญหาที่ค้นพบและแนวทางการแก้ไขปัญหา
การดำเนินงานพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
เป็นภารกิจที่ต้องพัฒนารอบด้านตามตัวชี้วัดในระดับหมู่บ้าน
การทำงานในบางครั้งต้องประสบกับข้อจำกัด และเงื่อนไขที่ทำให้งานไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนด
ซึ่งปัญหาที่มักพบบ่อย คือ
-
ข้อจำกัดเรื่องของพัฒนากรมีระยะเวลาในการทำงานจำกัด มีภารกิจต้องรับผิดชอบมากมาย
-
ภาคีเครือข่ายขาดความร่วมมือในการทำงาน
-
การพัฒนาให้ได้ผลลัพธ์ตามตัวชี้วัดเป็นไปได้ยาก
-
หมู่บ้านที่ได้รับการพัฒนาเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงแล้วขาดความยั่งยืน
แนวทางการแก้ไขปัญหาคือ การสร้างกลไกการทำงานหลักเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงในระดับหมู่บ้าน
ได้แก่ การเสริมพลังให้ อช. เป็นผู้ขับเคลื่อนงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยดำเนินการดังนี้
1) ประชุมทีม อช.ในหมู่บ้านที่จะพัฒนา เพื่อดำเนินการ
- สร้างความรู้
ความเข้าใจในแนวทางการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงที่กรมกำหนด ตลอดจน
ทำความเข้าใจตัวชี้วัดต่างๆ ที่จะวัดระดับการพัฒนาหมู่บ้านฯ
เพื่อให้เห็นภารกิจที่ต้องดำเนินการให้ชัดเจน
- เสริมทักษะการเป็นนักบริหารจัดการชุมชน เช่น การสื่อสารกับผู้คน
การจัดเวทีประชาคม เป็นต้น
-
เสริมทัศนคติเชิงบวกต่อหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อกระตุ้นให้เกิดแรงใจในการทำงาน
2) มอบหมายภารกิจให้
อช. มีส่วนร่วมในกระบวนการต่างๆ
และในบางกระบวนการอาจทำหน้าที่เป็นแกนนำในการปฏิบัติ ดังนี้
- ร่วมการประชุมประชาคมกับผู้นำในหมู่บ้าน และและประชาชน
ทำหน้าที่ในการอธิบายสร้างความเข้าใจ
และสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนในหมู่บ้านเป้าหมาย
-
มีส่วนร่วมในการวางแผนการดำเนินงานพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
- ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดทำแผนชีวิต
เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการจัดทำแผนพัฒนาครัวเรือนและแผนพัฒนาหมู่บ้าน
- ติดตามและสนับสนุนให้กำลังใจครัวเรือนต้นแบบ
ให้ดำรงชีวิตโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
- ร่วมสรุปผลการดำเนินงาน หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
3) ติดตามสนับสนุน ให้กำลังใจ
เสริมพลังเชิงบวกในการทำหน้าที่ให้กับ อช. อย่างสม่ำเสมอ
ตลอดจนประเมินผลการทำงานด้วยการสอบถามความก้าวหน้าในภารกิจที่มอบหมาย
ผ่านช่องทางสื่อสารที่หลากหลาย เช่น ประชุม โทรศัพท์ ตั้งกลุ่มไลน์แลกเปลี่ยนเรียนรู้
เป็นต้น
4) เผยแพร่ภาพการทำงานของ อช. ให้เป็นที่รับรู้
และเป็นผลงานที่สร้างความภาคภูมิใจในการปฏิบัติหน้าที่อันสำคัญ
เสมือนเป็นเงาของพัฒนากร
6.ประโยชน์ขององค์ความรู้
1.
เป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจในการดำเนินงานหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
2.
เป็นการน้อมนำหลักของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน
7.เทคนิคในการปฏิบัติงาน
1)
สร้างกลไกการทำงานที่มีประสิทธิในการทำงานในพื้นที่ ในที่นี้ผู้เขียนเลือก อช.
มาเป็นกลไกในการทำงาน เพราะผู้นำอย่างกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
มีภารกิจมากมายล้นหลาม อาจทำหน้าที่ขับเคลื่อนภารกิจได้ไม่เต็มที่
2) การมอบหมายภารกิจ
พร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาปฏิบัติการตามแผนที่ชัดเจนให้กับกลไก จะช่วยให้งานมีความก้าวหน้า
และลดภาระการทำงานให้พัฒนากรได้
3)
การสร้างทัศนคติเชิงบวกต่อภารกิจที่ได้รับมอบหมาย
มีส่วนช่วยให้เกิดการทำงานด้วยความมุ่งมั่น
4)
พัฒนากรต้องมีระบบการติดตามสนับสนุนที่หลากหลาย เน้นการให้กำลังใจ
5) ให้กลไกเป็นแกนนำการพัฒนาอย่างยั่งยืน
การมีกลไกการทำงานพื้นที่ คือการพัฒนาชุมชน ด้วยคนในชุมชน
แม้ว่าพัฒนากรจะเปลี่ยนคน
ภารกิจที่ดำเนินการก็ยังคงขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างยั่งยืน
เพราะแกนนำการพัฒนาเห็นความสำคัญ ไม่รอการขับเคลื่อนโดยบุคคลภายนอก
6) การประชาสัมพันธ์เผยแพร่ผลงานของ อช
มีผลต่อความรู้สึกภาคภูมิใจของผู้ปฏิบัติงาน และสร้างการรับรู้ว่า อช.
คือบุคคลสำคัญในการขับเคลื่อนงานได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น