1.
ชื่อองค์ความรู้ เทคนิคการวัดความสุขมวลรวมในโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
2. ชื่อเจ้าของความรู้
นางสาวกชพร สุทธพรม
3. องค์ความรู้ที่บ่งชี้ หมวด 2 เทคนิคการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
3. องค์ความรู้ที่บ่งชี้ หมวด 2 เทคนิคการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
4. ที่มาและความสำคัญในการจัดทำองค์ความรู้
อำเภอท่าตะโก ได้ดำเนินการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น
เป็นสุข” เป็นหลักในการขับเคลื่อนงานพัฒนาในหมู่บ้าน เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชน
มีความรู้ ความเข้าใจ ในหลักการดำรงชีวิตตามเศรษฐกิจพอเพียง สามารถนำความรู้มาประยุกต์ใช้ในการดำรงตน
ให้มีความสุข อยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุข ร่มเย็น
ซึ่งในการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง จะใช้เกณฑ์การประเมินเบื้องต้น
ด้วยตัวชี้วัด 6X2 และจัดระดับการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
ด้วยเกณฑ์ตัวชี้วัดกระทรวงมหาดไทย 4 ด้าน 23 ตัวชี้วัด
ซึ่งบ้านหนองละมาน
หมู่ที่ 2 ตำบลวังใหญ่ อำเภอท่าตะโก ได้มีการพัฒนาตามแนวทาง
และผลการจัดระดับการพัฒนาหมู่บ้าน เป็นหมู่บ้าน พออยู่ พอกิน
และมีการประเมินความสุขมวลรวมแบบ มีส่วนร่วม
ตามเกณฑ์ 6 องค์ประกอบ 22 ตัวชี้วัด
พร้อมทั้งประเมินปรอทวัดความสุขมวลรวมชุมชน จากครัวเรือนเป้าหมาย
30 ครัวเรือน
การดำเนินการวัดความสุขมวลรวมชุมชนบ้านหนองละมาน
หมู่ที่ 2 ตำบลวังใหญ่ จะเริ่มโดยวิทยากรสร้างบรรยากาศ
สร้างความรู้สึกผ่อนคลายเป็นกันเองในการประเมิน ชี้แจงวัตถุประสงค์ และอธิบายความหมายของแต่ละองค์ประกอบตัวชี้วัด
แล้วให้ครัวเรือนเป้าหมายให้คะแนนที่ละตัว
โดยวิธีการยกแผ่นป้ายคะแนนที่วิทยากรได้แจกให้ ๑ คน
ต่อ ๑ ชุด (๑ ชุดมี ๕ แผ่น โดยแต่ละแผ่นจะมีตัวเลขคะแนนติดอยู่ ตั้งแต่ ๑ – ๕) เมื่อวิทยากรอ่านตัวชี้วัดแต่ละข้อเสร็จ จะให้ทุกคนยกแผ่นป้ายคะแนนตามความคิดเห็นของตนในแต่ละประเด็นพร้อมกัน
ทีมงานจะแบ่งกันนับแผ่นป้าย
แยกตามคะแนน
เมื่อนับเสร็จจะนำค่าคะแนนมาเขียนลงตารางการให้คะแนนของตัวชี้วัดนั้น ๆ
จากนั้นจะคิดค่าเฉลี่ยความสุขของตัวชี้วัดดังกล่าว ว่ามีค่าเฉลี่ยเท่าใด
ข้อมูลที่กล่าวมาจะอยู่ในแผ่นตารางการให้คะแนนเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายมองเห็นภาพได้ชัดเจนและเกิดความเข้าใจ
ทำเช่นเดียวกันจนครบทุกตัวชี้วัด
หลังจากนั้นนำค่าเฉลี่ยที่ได้จากแต่ละตัวชี้วัดมาลงในแผนผังใยแมงมุม แล้วจึงใช้ปากกาเคมีลากเส้นแต่ละตัวชี้วัด
เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายมองภาพความสุขมวลรวมของหมู่บ้านออกว่าในแต่ละด้าน
แต่ละเรื่องเป็นอย่างไร และตัวชี้วัดที่ได้คะแนนน้อย วิทยากรจะช่วยกระตุ้นให้ครัวเรือนเป้าหมายช่วยกันลองคิดร่วมกันว่า
จะกำหนดแนวทาง หรือวิธีการการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมร่วมกันอย่างไร ซึ่งในขั้นตอนนี้
จะได้แนวคิดวิธีการที่หลากหลายเหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ และนำแนวคิด วิธีการที่ได้ไปเป็นข้อมูลในการปรับปรุงแผนพัฒนาหมู่บ้านต่อไป
5.
ปัญหาที่พบและแนวทางการแก้ไขปัญหา
- ในการวัดความสุขมวลรวม
จะใช้เวลาในการดำเนินงานนาน ดังนั้น ผู้ทำหน้าที่ประเมินต้องใช้ทักษะในการจูงใจ
สร้างสีสันในประเมินในแต่ละหัวข้อตัวชี้วัด โดยสามารถยกตัวอย่างประกอบ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจมากขึ้น
-
ขาดการติดตามผลหลังจากการประเมินความสุขมวลรวม ซึ่งตัวชี้วัดที่ได้คะแนนน้อย
ยังไม่มีการติดตามผลการแก้ไขหลังจากทำการประเมิน
ซึ่งผลสำเร็จของการประเมินความสุขมวลรวมควรที่จะต้องให้ประชาชนได้รับทราบว่าหมู่บ้านมีข้อด้อยที่ควรปรับปรุงอะไรบ้างและหลังจากช่วยกันระดมความคิดในการปรับปรุงเพื่อให้มีค่าคะแนนสูงขึ้นแล้ว
ควรมีการจัดระบบการติดตาม ประเมินผล ตามข้อเสนอที่ประชาชนช่วยกันระดมความคิด
เพื่อให้การขับเคลื่อนการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม
6.
ประโยชน์ขององค์ความรู้
- ใช้เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
ในการประเมินความสุขมวลรวม
-
เพิ่มขีดความสามารถของการประเมินความสุขมวลรวม เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เห็นเป็นรูปธรรม
สามารถเกิดผลปฏิบัติหลังการประเมินอย่างชัดเจน
7. เทคนิคในการปฏิบัติงาน
๑. สร้างบรรยากาศ
สร้างความรู้สึกผ่อนคลายเป็นกันเองในการประเมิน
ชี้แจงวัตถุประสงค์ และอธิบายความหมายของแต่ละองค์ประกอบตัวชี้วัดอย่างชัดเจน
๒. ครัวเรือนเป้าหมายให้คะแนนที่ละตัว โดยยกแผ่นป้ายคะแนนตามความคิดเห็นของตน
๓. ทีมงานแบ่งกันนับแผ่นป้าย
แยกตามคะแนน เมื่อนับเสร็จจะนำค่าคะแนนมาเขียนลงตารา
การให้คะแนนของตัวชี้วัดนั้น ๆ
4. คิดค่าเฉลี่ยความสุขของตัวชี้วัดทุกตัว
5.
นำค่าเฉลี่ยที่ได้จากแต่ละตัวชี้วัดมาลงในแผนผังใยแมงมุม
แล้วจึงใช้ปากกาเคมีสีสด ๆ มา
ลากเส้นเชื่อมแต่ละตัวชี้วัด
เพื่อให้ครัวเรือนเป้าหมายมองภาพความสุขมวลรวมของหมู่บ้านออกว่าในแต่ละด้าน
แต่ละเรื่องเป็นอย่างไร
6.
ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนน้อย
วิทยากรกระตุ้นให้ครัวเรือนเป้าหมายช่วยกันลองคิดร่วมกันว่า
กำหนดแนวทาง
หรือวิธีการการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมร่วมกันอย่างไร
7.
นำแนวคิด วิธีการที่ได้ไปเป็นข้อมูลในการปรับปรุงแผนพัฒนาหมู่บ้านต่อไป
8. การทำงานแบบมีส่วนร่วม ของภาคีการพัฒนาทั้งภาครัฐ
เอกชนและประชาชนในพื้นที่
เพราะค่าคะแนนที่ได้ในแต่ละตัวชี้วัด
เป็นผลจากการดำเนินงานในหมู่บ้านของผู้นำชุมชนและประชาชนเป็นหลัก
โดยมีภาคีการพัฒนาช่วยในการสนับสนุนส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ
ค่าคะแนนที่ได้จึงสะท้อนถึงผลสำเร็จของการดำเนินกิจกรรมการพัฒนาในหมู่บ้านอย่างแท้จริง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น