วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2562

KM : เทคนิคการวัดความสุขมวลรวมในโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง โดยนางสาวกชพร สุทธพรม


1. ชื่อองค์ความรู้            เทคนิคการวัดความสุขมวลรวมในโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
2. ชื่อเจ้าของความรู้         นางสาวกชพร  สุทธพรม
3. องค์ความรู้ที่บ่งชี้         หมวด 2  เทคนิคการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
4. ที่มาและความสำคัญในการจัดทำองค์ความรู้
                    อำเภอท่าตะโก ได้ดำเนินการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น เป็นสุข” เป็นหลักในการขับเคลื่อนงานพัฒนาในหมู่บ้าน เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชน มีความรู้ ความเข้าใจ ในหลักการดำรงชีวิตตามเศรษฐกิจพอเพียง สามารถนำความรู้มาประยุกต์ใช้ในการดำรงตน ให้มีความสุข อยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุข ร่มเย็น ซึ่งในการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง จะใช้เกณฑ์การประเมินเบื้องต้น ด้วยตัวชี้วัด 6X2  และจัดระดับการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยเกณฑ์ตัวชี้วัดกระทรวงมหาดไทย   4 ด้าน 23 ตัวชี้วัด ซึ่งบ้านหนองละมาน หมู่ที่ 2 ตำบลวังใหญ่ อำเภอท่าตะโก ได้มีการพัฒนาตามแนวทาง และผลการจัดระดับการพัฒนาหมู่บ้าน เป็นหมู่บ้าน พออยู่ พอกิน และมีการประเมินความสุขมวลรวมแบบ   มีส่วนร่วม ตามเกณฑ์ 6 องค์ประกอบ 22 ตัวชี้วัด พร้อมทั้งประเมินปรอทวัดความสุขมวลรวมชุมชน       จากครัวเรือนเป้าหมาย 30 ครัวเรือน

                    การดำเนินการวัดความสุขมวลรวมชุมชนบ้านหนองละมาน หมู่ที่ 2 ตำบลวังใหญ่ จะเริ่มโดยวิทยากรสร้างบรรยากาศ สร้างความรู้สึกผ่อนคลายเป็นกันเองในการประเมิน ชี้แจงวัตถุประสงค์ และอธิบายความหมายของแต่ละองค์ประกอบตัวชี้วัด แล้วให้ครัวเรือนเป้าหมายให้คะแนนที่ละตัว โดยวิธีการยกแผ่นป้ายคะแนนที่วิทยากรได้แจกให้ ๑ คน ต่อ ๑ ชุด (๑ ชุดมี ๕ แผ่น โดยแต่ละแผ่นจะมีตัวเลขคะแนนติดอยู่  ตั้งแต่ ๑ ๕)  เมื่อวิทยากรอ่านตัวชี้วัดแต่ละข้อเสร็จ จะให้ทุกคนยกแผ่นป้ายคะแนนตามความคิดเห็นของตนในแต่ละประเด็นพร้อมกัน  ทีมงานจะแบ่งกันนับแผ่นป้าย  แยกตามคะแนน เมื่อนับเสร็จจะนำค่าคะแนนมาเขียนลงตารางการให้คะแนนของตัวชี้วัดนั้น ๆ จากนั้นจะคิดค่าเฉลี่ยความสุขของตัวชี้วัดดังกล่าว ว่ามีค่าเฉลี่ยเท่าใด ข้อมูลที่กล่าวมาจะอยู่ในแผ่นตารางการให้คะแนนเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายมองเห็นภาพได้ชัดเจนและเกิดความเข้าใจ ทำเช่นเดียวกันจนครบทุกตัวชี้วัด หลังจากนั้นนำค่าเฉลี่ยที่ได้จากแต่ละตัวชี้วัดมาลงในแผนผังใยแมงมุม แล้วจึงใช้ปากกาเคมีลากเส้นแต่ละตัวชี้วัด เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายมองภาพความสุขมวลรวมของหมู่บ้านออกว่าในแต่ละด้าน แต่ละเรื่องเป็นอย่างไร และตัวชี้วัดที่ได้คะแนนน้อย วิทยากรจะช่วยกระตุ้นให้ครัวเรือนเป้าหมายช่วยกันลองคิดร่วมกันว่า จะกำหนดแนวทาง หรือวิธีการการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมร่วมกันอย่างไร ซึ่งในขั้นตอนนี้ จะได้แนวคิดวิธีการที่หลากหลายเหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ และนำแนวคิด วิธีการที่ได้ไปเป็นข้อมูลในการปรับปรุงแผนพัฒนาหมู่บ้านต่อไป

5. ปัญหาที่พบและแนวทางการแก้ไขปัญหา
                   - ในการวัดความสุขมวลรวม จะใช้เวลาในการดำเนินงานนาน ดังนั้น ผู้ทำหน้าที่ประเมินต้องใช้ทักษะในการจูงใจ สร้างสีสันในประเมินในแต่ละหัวข้อตัวชี้วัด โดยสามารถยกตัวอย่างประกอบ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจมากขึ้น
                   - ขาดการติดตามผลหลังจากการประเมินความสุขมวลรวม ซึ่งตัวชี้วัดที่ได้คะแนนน้อย ยังไม่มีการติดตามผลการแก้ไขหลังจากทำการประเมิน ซึ่งผลสำเร็จของการประเมินความสุขมวลรวมควรที่จะต้องให้ประชาชนได้รับทราบว่าหมู่บ้านมีข้อด้อยที่ควรปรับปรุงอะไรบ้างและหลังจากช่วยกันระดมความคิดในการปรับปรุงเพื่อให้มีค่าคะแนนสูงขึ้นแล้ว ควรมีการจัดระบบการติดตาม ประเมินผล ตามข้อเสนอที่ประชาชนช่วยกันระดมความคิด เพื่อให้การขับเคลื่อนการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม
6. ประโยชน์ขององค์ความรู้
          - ใช้เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ในการประเมินความสุขมวลรวม
          - เพิ่มขีดความสามารถของการประเมินความสุขมวลรวม เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เห็นเป็นรูปธรรม สามารถเกิดผลปฏิบัติหลังการประเมินอย่างชัดเจน
7. เทคนิคในการปฏิบัติงาน
๑.  ร้างบรรยากาศ สร้างความรู้สึกผ่อนคลายเป็นกันเองในการประเมิน ชี้แจงวัตถุประสงค์  และอธิบายความหมายของแต่ละองค์ประกอบตัวชี้วัดอย่างชัดเจน
๒.  ครัวเรือนเป้าหมายให้คะแนนที่ละตัว โดยยกแผ่นป้ายคะแนนตามความคิดเห็นของตน
    ๓. ทีมงานแบ่งกันนับแผ่นป้าย แยกตามคะแนน เมื่อนับเสร็จจะนำค่าคะแนนมาเขียนลงตารา
การให้คะแนนของตัวชี้วัดนั้น ๆ
     4. คิดค่าเฉลี่ยความสุขของตัวชี้วัดทุกตัว
     5. นำค่าเฉลี่ยที่ได้จากแต่ละตัวชี้วัดมาลงในแผนผังใยแมงมุม แล้วจึงใช้ปากกาเคมีสีสด ๆ มา
ลากเส้นเชื่อมแต่ละตัวชี้วัด เพื่อให้ครัวเรือนเป้าหมายมองภาพความสุขมวลรวมของหมู่บ้านออกว่าในแต่ละด้าน แต่ละเรื่องเป็นอย่างไร
     6. ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนน้อย วิทยากรกระตุ้นให้ครัวเรือนเป้าหมายช่วยกันลองคิดร่วมกันว่า
กำหนดแนวทาง หรือวิธีการการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมร่วมกันอย่างไร
                   7. นำแนวคิด วิธีการที่ได้ไปเป็นข้อมูลในการปรับปรุงแผนพัฒนาหมู่บ้านต่อไป
8. การทำงานแบบมีส่วนร่วม ของภาคีการพัฒนาทั้งภาครัฐ เอกชนและประชาชนในพื้นที่
เพราะค่าคะแนนที่ได้ในแต่ละตัวชี้วัด เป็นผลจากการดำเนินงานในหมู่บ้านของผู้นำชุมชนและประชาชนเป็นหลัก โดยมีภาคีการพัฒนาช่วยในการสนับสนุนส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ ค่าคะแนนที่ได้จึงสะท้อนถึงผลสำเร็จของการดำเนินกิจกรรมการพัฒนาในหมู่บ้านอย่างแท้จริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น