ชื่อความรู้
การสร้างความยั่งยืนให้กับสัมมาชีพชุมชนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
เจ้าของความรู้
นายสากล รุ่งทอง
ตำแหน่ง
นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ
สังกัด
สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอท่าตะโก
๑. ที่มาและความสำคัญของปัญหา
การสร้างสัมมาชีพชุมชน : กรมการพัฒนาชุมชนได้กำหนดวาระกรมการพัฒนาชุมชน ปี 2560 (CDD
Agenda 2017) ปัจจัยขับเคลื่อนหลักที่หนึ่ง
การพัฒนาอาชีพครัวเรือนด้วยการส่งเสริมการขับเคลื่อนการสร้างสัมมาชีพชุมชนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่เป้าหมาย
จำนวน 23,589 หมู่บ้านทั่วประเทศ ตามแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในภาคการเกษตรและชนบท
(ยุทธศาสตร์ที่ 1)
ซึ่งได้กำหนดกระบวนการขับเคลื่อนที่เริ่มต้นด้วยการพัฒนาทักษะการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับปราชญ์ชุมชน
เพื่อให้กลับไปสร้างทีม และจัดฝึกอบรมอาชีพให้กับครัวเรือนเป้าหมายที่ต้องการฝึกอาชีพในหมู่บ้าน
โดยใช้พื้นที่ในบ้านปราชญ์ชุมชนหรือศูนย์เรียนรู้ชุมชนเป็นแหล่งเรียนรู้
เพื่อมุ่งหมายให้ครัวเรือนที่เข้ารับการฝึกอาชีพมีความรู้ และปฏิบัติอาชีพได้จริงเพื่อมุ่งเน้นการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากในเรื่อง
“รายได้ครัวเรือน เพื่อให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน”
2.
กระบวนการ/วิธีการ/เทคนิค
1. การสร้างความเข้าใจกับพื้นที่เป้าหมายและให้ความรู้ความเข้าใจในการดำเนินงานเบื้องต้น
2. ระดับจังหวัดมีการสร้างความรู้ความเข้าใจ
มีการประชุมเชิงปฏิบัติการทีมสนับสนุนการขับเคลื่อนสัมมาชีพชุมชนระดับจังหวัด
3. ระดับอำเภอ/เจ้าหน้าที่
ใช้กลไกในการขับเคลื่อนในระดับพื้นที่
มีการแต่งตั้งคณะทำงานและให้ทุกส่วนมีการบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง มีการประชุมเชิงปฏิบัติการทีมสนับสนุนการขับเคลื่อนสัมมาชีพระดับอำเภอ
4. ระดับพื้นที่ชุมชน เตรียมแกนนำในชุมชน
ปราชญ์ชาวบ้านที่จะเข้าอบรมผู้นำสัมมาชีพ โดยมีขั้นตอนการคัดเลือกสัมมาชีพในชุมชน
เป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ เสียสละ และสามารถเป็นวิทยากรถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับคนในชุมชนได้
และมีการจัดตั้งกลุ่มอาชีพในชุมชน
ปัญหาระหว่างการดำเนินงาน
1. พัฒนากร : ขาดความเข้าใจในแนวทางการขับเคลื่อนโครงการ
ทำให้การปฏิบัติงานในพื้นที่มีความล่าช้า การคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์
เนื่องจากในขั้นตอนการอบรมผู้นำสัมมาชีพที่ศูนย์ศึกษาฯ เจ้าหน้าที่ไม่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมอบรมกระบวนการดังกล่าวด้วยทำให้เกิดปัญหาในการนำมาขับเคลื่อนงานพื้นที่
2. ระดับพื้นที่ชุมชน : แกนนำในชุมชนไม่เข้าใจแนวทางการคัดเลือกสัมมาชีพชุมชน ขาดการเตรียมความพร้อมในพื้นที่
ชาวบ้านมองว่าเป็นโครงการรัฐบาลเน้นให้เงินมาใช้จ่ายในครัวเรือน
การให้ความร่วมมือและให้ความสำคัญในขับเคลื่อนโครงการน้อย
ไม่เห็นถึงประโยชน์ที่เกิดกับชุมชน
3.
บางพื้นที่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามห้วงระยะเวลาของยุทธศาสตร์เนื่องจากผู้นำปราชญ์ต้องได้รับการอบรมจากศูนย์พัฒนาและศึกษาฯแต่ละเขตก่อน
และยังส่งผลกระทบเกี่ยวกับการเบิกจ่ายของสำนักงาน
4.
ระดับพื้นที่มีความต้องการที่หลากหลายในการเลือกสัมมาชีพทำให้มีปัญหากับการทำเอกสารจัดซื้อจัดจ้างของเจ้าหน้าที่
3. การแก้ไขปัญหา : การส่งเสริมการขับเคลื่อนการสร้างสัมมาชีพชุมชน
1. ระดับจังหวัดควรมีแนวทางแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับการดำเนินงานในเรื่องของการกำหนดระยะเวลาการอบรมของผู้นำหรือปราชญ์ที่เข้าอบรมเนื่องจากหากผู้นำยังไม่ผ่านการอบรมก็ไม่สามารถดำเนินการขับเคลื่อนกิจกรรมได้
ซึ่งมีความสัมพันธ์กับยอดการเบิกจ่ายงบประมาณ
2. ระดับอำเภอ/เจ้าหน้าที่
ใช้กลไกในการขับเคลื่อนในระดับพื้นที่
มีการแต่งตั้งคณะทำงานและให้ทุกส่วนมีการบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง มีการประชุมเชิงปฏิบัติการทีมสนับสนุนการขับเคลื่อนสัมมาชีพระดับอำเภอ
โดยเฉพาะเน้นการมีส่วนร่วมของเครือข่ายงานพัฒนาชุมชน (ศอชต. ผู้นำ อช.คณะกรรมการพัฒนาสตรี
) ให้ดำเนินการตามบทบาทและหน้าที่
3. ระดับพื้นที่ชุมชน แกนนำในชุมชน
มีขั้นตอนการคัดเลือกสัมมาชีพในชุมชน ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ เสียสละ มีการดำเนินวิถีชีวิตครัวเรือนที่เป็นแบบเป็นรูปธรรม
และสามารถเป็นวิทยากรถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับคนในชุมชนได้ และมีการจัดตั้งกลุ่มอาชีพในชุมชน
4.
เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนต้องเข้าไปเป็นพี่เลี้ยงเพื่อให้ความรู้ในการชี้แนะแนวทางเลือกอาชีพที่ทางชุมชนต้องการและสามารถดำเนินการได้ทุกครัวเรือน
4.
ประโยชน์ที่ได้รับ/ผลที่เกิดขึ้นจากการนำองค์ความรู้ไปใช้
1. ประโยชน์ที่ประชาชนและชุมชนได้รับ ชุมชนสามารถนำความรู้ที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาในชุมชน
โดยคนในชุมชนเป็นแกนหลักในการแก้ไขปัญหา ทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง พึ่งตนเองได้ สามารถสร้างความยั่งยืน
2. ประโยชน์ของทางราชการ เกิดการบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างแท้จริง
มีประสิทธิภาพ เกิดผลเป็นรูปธรรม
สามารถขับเคลื่อนกิจกรรมอื่นๆที่มีอยู่ในพื้นที่ได้เป็นการต่อยอดกิจกรรมให้มีความยั่งยืนของการดำเนินงานตามโครงการ
3.
ประโยชน์ที่เจ้าหน้าที่จะได้รับ
เจ้าหน้าที่มีความรู้ในการขับเคลื่อนโครงการ มีความชัดเจนในขั้นตอน วิธีการ
สามารถขับเคลื่อนงานได้ตามวัตถุประสงค์ สามารถเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำ แก่ชุมชนในการคัดเลือกอาชีพ
การสร้างสัมมาชีพในชุมชน
และสามารถต่อยอดกิจกรรมในพื้นที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม
สามารถส่งเสริมกระบวนการกลุ่มให้กับคนในชุมชน เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ
สร้างรายได้
5. ปัจจัยที่ส่งผลให้ประสบผลสำเร็จ
1.
ศึกษาหาความรู้ ในทุกกระบวนการทำงานของโครงการสัมมาชีพชุมชนโดยอาศัยพื้นฐานตามแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
2. การให้ความสำคัญกับทุกกระบวนงานตั้งแต่เริ่มต้น-สิ้นสุด
เป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จของโครงการ
3.
ให้ความสำคัญในการจัดเก็บข้อมูลชุมชนตามกระบวนการทำงานพัฒนาชุมชน
ไม่ว่าจะเป็น จปฐ. กชช.2ค เพื่อนำข้อมูลที่มีในชุมชนมาเป็นฐานในการวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาของคนในชุมชน
โดยคนในชุมชนเป็นแกนนำ เป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาของชุมชน
6. แนวคิด/ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
1.
แนวทางการดำเนินงาน “ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
2. หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
3. แนวทางการสร้างสัมมาชีพชุมชน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น