การฯ ไม่สามารถอนุมัติเงินยืมตั้งแต่ปี 2554 เพื่อจะนำไปประกอบอาชีพได้ จึงได้นัดหมายให้ประธานกองทุน กข.คจ. และคณะกรรมการส่วนหนึ่งพบปะเพื่อขอรับทราบข้อเท็จจริง ปรากฏว่าสาเหตุที่ไม่สามารถอนุมัติเงินยืมได้เนื่องจาก มีครัวเรือนค้างชำระ จำนวน 6 ราย แยกเป็น ยืมเงินในปี 2554 จำนวน 2 ราย เป็นเงิน 4,000 บาท, ในปี 2555 จำนวน 1 ราย เป็นเงิน 2,000 บาท, ในปี 2556 จำนวน 3 ราย เป็นเงิน 14,000 บาท รวมเงินยืมทั้งหมด 20,000 บาท โดยที่ครัวเรือนที่ค้างชำระให้เหตุผลว่าต้องให้ครัวเรือนอื่นชำระเงินยืมก่อน ตนถึงจะยอมชำระ
สาเหตุดังกล่าว ได้ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างคณะกรรมการฯ และครัวเรือนที่ประสงค์จะยืมเงิน การเข้าไปสอบถามในขั้นแรกยังไม่มีข้อเท็จจริงใดให้ตัดสินได้เนื่องจาก แต่ละฝ่ายต่างไม่ให้ความจริง จึงตัดสินใจใช้วิธีสอบถามจากกลุ่มชาวบ้านตามร้านค้าของในหมู่บ้านเพื่อให้เข้าถึง “ภูมิหลัง” ของชุมชน ทำให้ได้ข้อมูลมาประกอบการตัดสินในการดำเนินการ คือ
1. ครัวเรือนเป้าหมายขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกองทุนโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน (กข.คจ.)
2. คณะกรรมการกองทุนโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน (กข.คจ.) ขาดความรู้ความเข้าใจในการดำเนินงานกองทุนโครงการ กข.คจ.
3. เจ้าหน้าที่ขาดการติดตามการดำเนินงานกองทุนโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน (กข.คจ.) อย่างต่อเนื่อง
4. ครัวเรือนที่ค้างชำระเงินยืม จำนวน 6 รายนั้น มีประธาน /คณะกรรมการ กข.คจ. รวมอยู่ด้วยโดยยืมเงินเป็นจำนวนมาก
5. คณะกรรมการฯ บางส่วนไม่กล้าทวงถามหนี้ค้างชำระด้วยเหตุผลว่าเคยทวงถามหลายครั้งแล้วแต่ครัวเรือนเป้าหมายไม่ชำระคืนเงินยืม
6. ครัวเรือนเป้าหมายจะชำระเงินก็ต่อเมื่อประธานคณะกรรมการ กข.คจ. ชำระเงินยืมก่อน
7. คณะกรรมการ กข.คจ. มีหลายสมัย ทำให้การดำเนินงานกองทุนโครงการ กข.คจ. ไม่ต่อเนื่อง
เมื่อได้รับทราบข้อมูลครบทุกด้านแล้วจึงนัดหมายคณะกรรมการ กข.คจ. และครัวเรือนเป้าหมายที่ค้างชำระเงินยืมมาประชุมทำความเข้าใจเกี่ยวกับกองทุนโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน (กข.คจ.) เพื่อให้คณะกรรมการฯ และครัวเรือนเป้าหมายเห็นความสำคัญและนำเงินกองทุนมาบริหารจัดการให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ จากการประชุมของหมู่บ้าน ก็พบว่าแต่ละฝ่ายต่างยืนยันที่จะชำระก็ต่อเมื่ออีกฝ่ายชำระเงินคืนก่อน จึงได้แจ้งเป็นหนังสือติดตามให้ชำระเงินคืนโดยกำหนดระยะเวลาไว้ภายใน 15 วันนับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งเตือน และได้จัดประชุมกับสมาชิกกองทุน กข.คจ. ทุกครัวเรือน โดยได้นำระเบียบต่าง ๆ กรณีตัวอย่างของหมู่บ้านอื่นทั้งที่ประสบผลสำเร็จและมีปัญหามาบอกเล่า และกระตุ้นให้ชำระเงินภายในกำหนดเพื่อการยืมเงินประกอบอาชีพในงวดต่อไป ทั้งนี้ได้เน้นให้คณะกรรมการฯ ต้องชำระเงินเป็นตัวอย่างแก่ครัวเรือนอื่น
ภายหลังจากการประชุม 1 สัปดาห์ประธาน/คณะกรรมการฯจึงนำเงินมาชำระ และมีครัวเรือน เข้ามาชำระเงินคืนรวมเป็นจำนวน 6 ราย ครบทุกครัวเรือน
บันทึกขุมความรู้
- การสืบค้นข้อเท็จจริงเพื่อให้เข้าถึงภูมิหลังของชุมชน
- การจัดประชุมทุกฝ่ายโดยเปิดเผยเพื่อหาข้อยุติร่วมกัน
แก่นความรู้
- คณะกรรมการ ฯ ต้องเป็นผู้ที่ยึดถือระเบียบ/หน้าที่โดยเคร่งครัด
- การร่วมแก้ไขปัญหาโดยสมาชิกในชุมชน
- ภูมิหลังของชุมชน
กลยุทธ์ในการทำงาน
1. คณะกรรมการ ฯ ต้องเป็นผู้ที่ยึดถือระเบียบ/หน้าที่โดยเคร่งครัด
พัฒนากรผู้ประสานงานประจำตำบลต้องติดตามการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ/การช่วยแก้ไขปัญหา การจัดประชุมเพื่อทบทวนบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการเพื่อสร้างความตระหนักและแสดงความรับผิดชอบหากปัญหาเกิดขึ้นจากคณะกรรมการฯ
2. การร่วมแก้ไขปัญหาโดยสมาชิกในชุมชน
การจัดประชุมเป็นวิธีแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดโดยการมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นของแต่ละฝ่ายและการประนีประนอมข้อเรียกร้องของแต่ละฝ่ายเพื่อหาแนวทางที่สันติและเป็นที่ยอมรับได้ทุกคน
3. ภูมิหลังของชุมชน
ข้อมูลและสภาพของชุมชนในการรับรู้ขั้นต้นของผู้ที่เข้าไปสอบถาม/แก้ไขปัญหา ยังเป็นข้อมูลที่ไม่เพียงพอต่อการตัดสิน ดังนั้นจึงควรศึกษาชุมชนให้อย่างถ่องแท้จึงจะสามารถประเมิน/วินิจฉัยประเด็นปัญหาหรือข้อพิพาทในชุมชนได้อย่างเที่ยงตรง
๔. การติดตามการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
พัฒนากรผู้ประสานงานตำบลต้องติดตามการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ อย่างต่อเนื่อง การสร้างความรู้ความเข้าใจในการดำเนินงานของกองทุน กข.คจ. แก่คณะกรรมการฯ และครัวเรือนเป้าหมาย เพื่อให้คณะกรรมการฯ และครัวเรือนเป้าหมายมีความรู้ความเข้าใจในการดำเนินงานของกองทุน กข.คจ. และเพื่อให้ทราบถึงผลการดำเนินงานของกองทุน กข.คจ. จะได้ช่วยแก้ไขปัญหาได้
กฎระเบียบ แนวคิด ทฤษฎี ที่เกี่ยวข้อง
1. ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการบริหารและการใช้จ่ายเงินโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน พ.ศ. 2553
2. แนวคิดจากการวิจัยภาคสนาม เรื่อง เบื้องหลังหน้ากาก (Behind Many Masks: Ethnography and Impression Management) โดย เจอรัลด์ ดี แบรีแมน
ชื่อ – สกุล นางวันเพ็ญ บรรหารวุฒิไกร
ตำแหน่ง นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ
สังกัด สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเมืองนครสวรรค์
หมายเลขโทรศัพท์ 083-9558538
เป็นการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ การชำระเงินยืมกองทุนโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน (กข.คจ.)
บ้านอ่างหิน หมู่ที่ 3 ตำบลหนองปลิง อ.เมืองฯ จ.หวัดนครสวรรค์
ตำแหน่ง นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ
สังกัด สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเมืองนครสวรรค์
หมายเลขโทรศัพท์ 083-9558538
เป็นการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ การชำระเงินยืมกองทุนโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน (กข.คจ.)
บ้านอ่างหิน หมู่ที่ 3 ตำบลหนองปลิง อ.เมืองฯ จ.หวัดนครสวรรค์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น