1. ชื่อองค์ความรู้
เทคนิคการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ
2. ชื่อเจ้าของความรู้ นางสาวเสาวลักษณ์ หิรัญรักษ์
ตำแหน่ง
นักวิชาการพัฒนาชุมชนปฏิบัติการ
สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอตากฟ้า
จังหวัดนครสวรรค์
3. องค์ความรู้ที่บ่งชี้





หมวดที่ 5 เทคนิคการส่งเสริมช่องทางการตลาดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP)



หมวดที่ 8
เทคนิคการเสริมสร้างองค์กรให้มีสมรรถนะสูง (เป็นบุคลากรทันสมัย พัฒนาองค์กร)
4.
ที่มาและความสำคัญในการจัดทำองค์ความรู้
กรมการพัฒนาชุมชน ได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 พระราชทานไว้ในโอกาสต่างๆ
มาเป็นหลักในการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชน ตั้งแต่
ปี พ.ศ. 2549 เป็นต้นมา ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจหลักของกรมการพัฒนาชุมชน คือ
การส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชน ผ่านกระบวนการพัฒนาผู้นำชุมชนและส่งเสริมการบริหารจัดการโดยชุมชน
เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ
ตั้งแต่ระดับ ครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ
ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปใน ทางสายกลาง โดยเฉพาะ การพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัฒน์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควรต่อการมีผลกระทบใด
ๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลง ทั้งภายนอกและภายใน ทั้งนี้จะต้องอาศัยความรอบรู้
ความรอบคอบ และความระมัดระวัง อย่างยิ่ง ในการนำวิชาการ
ต่าง ๆ มาใช้ในการวางแผนและการดำเนินการทุกขั้นตอน
และขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ
นักทฤษฎีและนักธุรกิจ ในทุกระดับ ให้มีสำนึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต
และให้มีความ รอบรู้ที่เหมาะสม ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา
และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อ
การรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม
และวัฒนธรรม จากโลกภายนอก ได้เป็นอย่างดี
บันทึกขุมความรู้ (Knowledge
Assets)
1) จัดทำแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามโครงการ
2) กำหนดเครื่องมือในการทำงาน
3) จัดเวทีสร้างความรู้
ความเข้าใจปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงระดับหมู่บ้าน
4) การจัดทำบัญชีรายรับ-
รายจ่ายของครัวเรือน
5) วิเคราะห์-สังเคราะห์ข้อมูลบัญชีครัวเรือน
ประจำเดือน
6) การขับเคลื่อนกิจกรรม
6×2 (การเพิ่มรายรายได้ ลดรายจ่าย ประหยัด การเรียนรู้
การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และการเอื้ออารีย์)
5) ดำเนินกิจกรรมแก้ปัญหาตามข้อมูลบัญชีครัวเรือน
และการส่งเสริมอาชีพตามทางเลือก
6) เวทีถอดบทเรียนจากเวทีประชาคม
7) ติดตามสนับสนุนและประเมินผล
แก่นความรู้ (Core Competencies)
1) ศึกษาปัญหา
รับทราบข้อมูล
2) ปรึกษาหารือ
3) หาข้อยุติ
4) ชี้แจงการดำเนินงานตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้รับทราบ
5) สร้างความพึงพอใจ
6) งานสัมฤทธิ์ผล
เทคนิคในการปฏิบัติงาน
1.
ศึกษาปัญหา รับทราบข้อมูล
ก่อนการดำเนินการ
ต้องเตรียมข้อมูลที่มีอยู่ เช่น ข้อมูล จปฐ. ข้อมูล กชช. 2 ค บัญชีรายรับ รายจ่าย หนี้สิน เงินออม
ค้นหาศักยภาพของหมู่บ้าน เพื่อนำเสนอข้อมูลภาพรวมของหมู่บ้านที่น่าสนใจ
ในการเปิดเวทีประชาคม เพื่อสร้างความตระหนัก พร้อมเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตนเอง
ปัญหาความเป็นอยู่ของ
แต่ละครัวเรือน
การรับทราบข้อมูลในทุก ๆ ด้านเพื่อการเตรียมการในการปฏิบัติงาน จึงจำเป็นอย่างยิ่ง
หากมีข้อมูลมาก รู้จักคนมาก รู้จักวัฒนธรรม
วิถีชีวิตเข้าใจสภาพของชุมชนอย่างชัดเจน
การตัดสินใจเพื่อกระทำการ ใด ๆ ย่อมถูกต้องและเกิดการยอมรับ
ไม่มีอุปสรรคในการทำงาน การศึกษาปัญหา ด้วยการรับข้อมูลจากหลาย
ๆ แหล่งข้อมูล นำข้อมูลมาวิเคราะห์ หาแนวทางแก้ไขโดยการ
1) ประชุมแกนนำในการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
2) จัดเวทีสร้างความรู้ความเข้าใจปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
เรียนรู้วิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียงโดยมีตัวขับเคลื่อน 6×2 (การเพิ่มรายได้
ลดรายจ่าย ประหยัด การเรียนรู้ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และการเอื้ออารีย์)
3) จัดทำสมุดบัญชีครัวเรือนให้ครบทุกครัวเรือน
โดยคณะกรรมการหมู่บ้านให้งบประมาณในการจัดทำเอกสาร
2.
การปรึกษาหารือ
นำข้อมูลที่ได้มาหาทางออกด้วย
ร่วมกันปรึกษาหารือกันเพื่อหาแนวทางในการแก้ไข และหาข้อยุติของปัญหา
เป็นการสร้างความเข้าใจและยอมรับในสภาพปัญหาร่วมกัน
ตัดสินใจเลือกแก้ปัญหาร่วมกันเพื่อตัดปัญหาในขณะปฏิบัติงาน
โดยผู้มีส่วนในการสนับสนุน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน สมาชิก อบต.
3.
หาข้อยุติ
เป้าหมายความสำเร็จของงาน
คือ ผู้นำชุมชน แกนนำชุมชน ครัวเรือน
หน่วยงานภาคีพัฒนาเกิดการยอมรับในแนวทางของโครงการแก้ไขปัญหาความยากจนตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
4.
ชี้แจงการดำเนินงานตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้รับทราบ
เมื่อมีการประชุมชี้แจง
สร้างความรู้ความเข้าใจตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เกิดการยอมรับ
และตัดสินใจที่เข้าร่วมในการจัดทำแผนแก้ปัญหาความยากจน ด้วยความสมัครใจ
ทำให้ชุมชนพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน
5.
สร้างความพึงพอใจ
สร้างความพอใจด้วยการเสนอทางออกที่สร้างความหวังที่เกิดขึ้นจริง
และทางออกที่สามารถปฏิบัติได้ ทำให้ชุมชนเกิดการยอมรับ
และมีการวางแผนในการแก้ปัญหาความยากจนตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
6.
งานสัมฤทธิ์ผล
สร้างการมีส่วนร่วม
ในการคิด ตัดสินใจ ร่วมแก้ไขปัญหาและร่วมรับผิดชอบ
เพื่อสร้างความเป็นเจ้าของร่วมกัน ทำให้ครัวเรือนมีการดำรงชีวิตตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน
เป็นความสำเร็จและภาคภูมิใจในการทำงานแก้ไขปัญหาของหมู่บ้าน
ประโยชน์ขององค์ความรู้
–
ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองทางด้านเศรษฐกิจและสังคม
–
ใช้เป็นรากฐานในการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
–
รัฐบาลกำหนดเป็นนโยบายและกลยุทธ์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชากร
–
ทำให้เกิดการรวมกลุ่มเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนของชุมชนตามโครงการต่างๆ
–
ให้เป็นหลักปฏิบัติในการควบคุมจิตใจให้หลงระเริงไปกับสิ่งฟุ้งเฟ้อตามกระแสทุนนิยมโลก
–
ส่งเสริมให้เกิดความรักสามัคคีในกลุ่มและชนชาติ
–
เกิดความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
–
ช่วยให้เกิดการพัฒนาประเทศชาติตามท้องถิ่นต่างๆ
–
เสริมสร้างความมั่นคงของชาติได้ตามนโยบายของรัฐ
–
ประยุกต์ใช้กับการประกอบอาชีพต่างๆ
กฎระเบียบ/แนวคิด/ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
– หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
– แบบประเมินหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
“อยู่เย็น เป็นสุข” จำนวน 4 ด้าน 23 ตัวชี้วัดของกระทรวงมหาดไทย
– ตัวชี้วัด
6×2 หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ
– แบบประเมินความสุขมวลรวมของชุมชน
(GVH) ครั้งที่ 1 และ 2
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น