วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

KM : เทคนิคการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงบ้านหาดทรายงาม โดยน.ส.ธันย์ชนก บุญสนิท


1. ชื่อองค์ความรู้          เทคนิคการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงบ้านหาดทรายงาม
                             หมู่ที่ 9 ตำบลวัดไทร อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์
2. ชื่อเจ้าของความรู้        นางสาวธันย์ชนก  บุญสนิท ตำแหน่ง นักวิชาการพัฒนาชุมชนปฏิบัติการ
                              สังกัด สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์
3. องค์ความรู้ที่บ่งชี้       หมวดที่ 2 เทคนิคการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
4. ที่มาและความสำคัญในการจัดทำองค์ความรู้ (อธิบายโดยละเอียด) (คะแนนเต็ม 20 คะแนน)
              การพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยเป็นแนวทางการพัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานทางสายกลาง ความไม่ประมาท ไม่ฟุ่มเฟือย คำนึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง ตลอดจนการใช้ความรู้และคุณธรรมเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต โดยมีใจความสำคัญคือสติ ปัญญา และความเพียร ซึ่งเป็นบันไดสู่ความสุขในการดำเนินชีวิตอย่างแท้จริงโดยให้ประชาชนเป็นศูนย์กลางการพัฒนาในการเสริมสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง ซึ่งเป็นการพัฒนาชนบทโดยนำแนวทางการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริมาใช้ เพื่อเป็นต้นแบบหรือแนวทางให้กับหน่วยงาน หมู่บ้านหรือชุมชน ประชาชน นำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับการดำเนินงานในพื้นที่
ด้วยการประสานพลังระหว่างภาคี หรือพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการ ปราชญ์ชาวบ้าน องค์กรพัฒนาเอกชน สถาบันการศึกษาและประชาชนในพื้นที่ และนำไปบูรณาการสู่กระบวนการเรียนรู้ในการช่วยเหลือตนเองจนสามารถพึ่งตนเองได้ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได้มีพระราชดำรัสเกี่ยวกับแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 ดังนี้
          “...การพัฒนาประเทศจำเป็นต้องทำตามลำดับขั้น ต้องสร้างพื้นฐานคือ ความพอมี พอกิน พอใช้ของประชาชนส่วนใหญ่เบื้องต้นก่อน โดยใช้วิธีการและอุปกรณ์ที่ประหยัดแต่ถูกต้องตามหลักวิชาการ เมื่อได้พื้นฐานความมั่นคงพร้อมพอสมควร และปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญ และฐานะทางเศรษฐกิจขั้นที่สูงขึ้นโดยลำดับต่อไป...” (18 กรกฎาคม 2517)
          “...คนอื่นจะว่าอย่างไรก็ช่างเขา จะว่าเมืองไทยล้าสมัย ว่าเมืองไทยเชย ว่าเมืองไทยไม่มีสิ่งที่สมัยใหม่ แต่เราอยู่พอมีพอกิน และขอให้ทุกคนมีความปรารถนาที่จะให้เมืองไทยพออยู่พอกิน มีความสงบ และทำงานตั้งจิตอธิษฐานตั้งปณิธาน ในทางที่จะให้เมืองไทยอยู่แบบพออยู่พอกิน ไม่ใช่ว่าจะรุ่งเรืองอย่างยอด แต่ว่ามีความพออยู่พอกิน มีความสงบ เปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ถ้าเรารักษาความพออยู่พอกินนี้ได้ เราก็จะยอดยิ่งยวดได้...” (4 ธันวาคม 2517)
          จากพระบรมราโชวาทนี้จะเห็นได้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงเห็นว่าการพัฒนาที่เน้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศเป็นหลักแต่เพียงอย่างเดียวอาจจะเกิดปัญหาได้ จึงทรงเน้นให้สร้างความพอมีพอกินในประชาชนส่วนใหญ่เป็นเบื้องต้นก่อน และเมื่อมีพื้นฐานความมั่นคงพร้อมพอสมควรแล้ว จึงค่อยสร้างความเจริญและฐานะทางเศรษฐกิจให้สูงขึ้นเป็นลำดับถัดไป
5. ปัญหาที่พบและแนวทางการแก้ไขปัญหา (อธิบายโดยละเอียด) (คะแนนเต็ม 10 คะแนน)
           5.1 ปัญหาที่พบ : จากการที่พัฒนากรได้เข้าไปประสานงานและสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ของหมู่บ้าน จึงมีข้อมูลว่า หมู่บ้านมีที่ดินติดกับแม่น้ำปิงไหลผ่านและราษฎรส่วนมากดำเนินกิจกรรมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยการปลูกพืชผักสวนครัว ปลูกข่า ตะใคร้ ไว้ขายและเป็นอาชีพหลักเป็นการรับจ้างเพราะพื้นที่เป็นเขตเมืองฯ  มีอาชะเสริมคือการทำปลาแดดเดียวเพราะเป็นเมืองแม่น้ำไหลผ่าน พบปัญหา คือ
                        1) ยังไม่ได้รับการสนับสนุนให้เป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงของหน่วยงานกรมการพัฒนาชุมชน
                        2) ยังไม่ได้รับการสนับสนุนให้มีกลุ่มอาชีพต่าง ๆ
           5.2 แนวทางการแก้ไขปัญหา : ผลักดันให้ได้รับงบประมาณสนับสนุนเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง และพัฒนากลุ่มอาชีพจากกรมการพัฒนาชุมชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562
6. ประโยชน์ขององค์ความรู้ (อธิบายโดยละเอียด) (คะแนนเต็ม 15 คะแนน)
              6.1 พัฒนากรสามารถบริหารจัดการองค์ความรู้ของกรมการพัฒนาชุมชน และนำไปสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชนตามภารกิจของกรมการพัฒนาชุมชนได้
              6.2 องค์ความรู้ที่ได้ถ่ายทอด สามารถนำไปเป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจและสามารถขยายผลสู่คนรุ่นหลังได้
 7. เทคนิคในการปฏิบัติงาน (อธิบายโดยละเอียด) (คะแนนเต็ม 25 คะแนน)
พัฒนากรผู้ส่งเสริม สนับสนุน การขับเคลื่อนหมู่บ้านเป้าหมาย ตามโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง และส่งเสริมสนับสนุนกลุ่มอาชีพ  ซึ่งจะต้องดำเนินการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามแนวทางที่กรมการพัฒนาชุมชนกำหนด โดยมีเป้าหมายให้ครัวเรือนเป้าหมายได้มีโอกาสเรียนรู้ และพัฒนาอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ของครัวเรือนให้เพิ่มขึ้นโดยมีกระบวนการขั้นตอนดำเนินการดังนี้
1)  เตรียมความพร้อมข้อมูลครัวเรือนเป้าหมาย 30 ครัวเรือน เพื่อเข้ารับการฝึกอบรมและให้ความรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และศึกษาดูงานบ้านพี่ที่เป็นต้นแบบ เพื่อนำมาปรับใช้ในหมู่บ้านที่กำลังดำเนินงาน
2) มีการประเมินความสุขมวลรวม (Spider Diagram) / ปรอทวัดความสุข จัดทำบัญชีครัวเรือน สนับสนุนกลุ่มอาชีพโดยมีการสาธิตอาชีพตามความต้องการของครัวเรือนเป้าหมาย
3)  ส่งเสริม สนับสนุน กำกับติดตามครัวเรือนเป้าหมาย 30 ครัวเรือน
4)  คัดเลือกครัวเรือนต้นแบบจากหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน 1 ครัวเรือน
5)  ส่งเสริมการจัดตั้งกลุ่มอาชีพแก่หมู่บ้าน และลงทะเบียนเป็นสินค้า OTOP เพื่อสร้างอาชีพและรายได้อย่างยั่งยืน
6)  ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองบ้านหาดทรายงามเพื่อสนับสนุนทุนในการจัดตั้งกลุ่มแปรรูปปลาดุกแดดเดียว
ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชุมชน
๑. ผู้นำชุมชนมีการบริหารจัดการที่ดี มีแผนการดำเนินงานหมู่บ้านอย่างเป็นระบบ สร้างภาวะความเป็นผู้นำ สร้างความตระหนักในการที่จะแก้ไขปัญหาร่วมกันทั้งชุมชน
๒. ประชาชน กลุ่มองค์กร มีส่วนร่วมในการพัฒนากิจกรรม และหมู่บ้านของตนเอง ทำให้ชุมชนได้รับการยอมรับ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหมู่บ้านตัวอย่างจนสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีแก่หมู่บ้านอื่น เกิดการเรียนรู้ร่วมกันของครัวเรือน มีการเก็บออมมากขึ้น มีการพัฒนาสภาพแวดล้อมครัวเรือน กลุ่มองค์กรชุมชนมีการเชื่อมโยงการบริหารจัดการมีเป้าหมายร่วมกัน
๓. มีกิจกรรมในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง มีวัสดุในการสาธิตอาชีพ และเงินทุนในการต่อยอดอาชีพของครัวเรือนในหมู่บ้าน ทำให้แก้ไขปัญหาความยากจนของคนในชุมชนได้
๔. สภาพแวดล้อม สภาพหมู่บ้านได้รับการพัฒนา มีความสะอาดปลูกพืชผักสวนครัว แบ่งความรับผิดชอบเป็นคุ้ม เน้นกิจกรรมที่นำภูมปัญญา และสิ่งที่มีอยู่ในชุมชนมาจัดแสดง เพื่อเผยแพร่หมู่บ้านดีเด่น
๕. ประชาชนมีความสุขเพิ่มมากขึ้น
ปัจจัยแห่งความสำเร็จ
๑. การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และมีการกำหนดบทบาทหน้าที่ ที่ชัดเจน มีการวางแผนการดำเนินงานแบบมีส่วนร่วม
๒. ผู้นำชุมชนมีความเสียสละ และเป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติงาน
๓. ชุมชนมีความรัก ความสามัคคี เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
๔. มีการทำงานร่วมกันแบบสร้างภาคีเครือข่าย กลุ่มองค์กร และใช้ระบบเครือญาติ
๕. ใช้แผนชุมชนศูนย์เรียนรู้ชุมชน และระบบ มชช. เป็นตัวขับเคลื่อนการพัฒนาหมู่บ้าน
๖. มีการประชุม ประชาคม และแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอยู่เสมออย่างต่อเนื่อง
๗. ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจแบบพอเพียง และยึดหลักประชาธิปไตยในการดำรงชีวิต
ผลสำเร็จของงาน (เชิงปริมาณ/คุณภาพ)
ผลงานเชิงปริมาณ
๑. ประชาชนบ้านขามใหญ่ทุกครัวเรือนน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตด้วยการปฏิบัติจริง ทำให้มีรายได้ผ่านเกณฑ์ จปฐ.ทุกครัวเรือน กิจกรรมด้านทุนชุมชนได้บูรณาการทุนของกลุ่มเป็นปัจจัยในการพัฒนาหมู่บ้าน
๒. ตัวแทนครัวเรือนเป้าหมาย ๓๐ คน ได้รับการอบรมและพัฒนาทักษะตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและนำไปปฏิบัติ
๓. ราษฎรในหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ มีการดำเนินกิจกรรมด้านอาชีพ ลดรายจ่าย
เพิ่มรายได้ และร่วมดำเนินกิจกรรมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จำนวนร้อยละ ๘๐ ของครัวเรือนทั้งหมด
๔. หมู่บ้านจำนวน ๑ หมู่บ้าน ได้รับคัดเลือกเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ ระดับอำเภอ
ปี ๒๕๕๙ ในการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติ
๕. มีจุดเรียนรู้ จำนวน ๑ หมู่บ้าน และขยายผลไปสู่หมู่บ้านอื่นๆ
ผลงานเชิงคุณภาพ
ระดับครัวเรือน ประชาชนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ วิเคราะห์ประเมินตนเอง ด้วยการจัดทำบัญชีครัวเรือน ตระหนักถึงคุณค่าการพึ่งตนเอง ลด ละ เลิก อบายมุข เอื้ออาทรต่อกัน ภาคภูมิใจในถิ่นกำหนด ครอบครัวพัฒนา ผ่านเกณฑ์ตัวชี้วัด ๖x๒ และประชาชนในหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบผ่านการประเมินตามเกณฑ์ชี้วัด ระดับอยู่ดี
กินดี และความสุขมวลรวมชุมชน (GVH) เพิ่มขึ้น
ระดับชุมชน ชุมชนค้นพบศักยภาพของตนเอง ได้รับรางวัลชมเชยหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
อยู่เย็น เป็นสุข
- ผู้นำชุมชนในหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ ผลักดันกิจกรรมของชุมชนเข้าสู่กระบวนการจัดทำแผนชุมชนของหมู่บ้าน และถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ชุมชนอื่นได้
- ชุมชนได้ผู้นำรุ่นใหม่และมีรูปแบบการทำงานร่วมกันที่เหมาะสมกับชุมชน
- ครัวเรือนมีการประกอบอาชีพหลักและอาชีพเสริม มีรายได้ ลดรายจ่ายในครัวเรือน
- ส่งเสริมการออมในชุมชน เพื่อสร้างแหล่งทุนใหม่ และผลกำไร
- ชุมชนเกิดความรัก ความสามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูล
- ชุมชนมีการถอดบทเรียนความสำเร็จของชุมชน
- ชุมชนเข้มแข็ง พึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน
ระดับตำบล มีการบูรณาการการทำงานระหว่างท้องถิ่น ท้องที่ และหน่วยงานภาคีการพัฒนา
การนำไปใช้ประโยชน์
๑. ครัวเรือนเป้าหมายนำความรู้และทักษะที่ได้รับตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ขยายผลเป็นอาชีพเสริมของครอบครัว
๒. ราษฎรในหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการดำรงชีวิต ประกอบอาชีพและการพัฒนาหมู่บ้าน
๓. หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ นำกิจกรรมด้านเศรษฐกิจพอเพียงบรรจุลงใน
แผนชุมชนเกิดการพัฒนาอาชีพและสร้างรายได้ พัฒนาหมู่บ้านเป็นหมู่บ้านอยู่เย็นเป็นสุข
ความยุ่งยากในการดำเนินการ/ปัญหา/อุปสรรค
๑. ประชาชนยังขาดองค์ความรู้ในการขับเคลื่อนที่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน
๒. การสนับสนุนงบประมาณ มีจำกัด แต่ก็ยังสามารถแก้ไขได้
แนวคิดในการทำงาน
๑. ใช้หลักการทำงานแบบมีส่วนร่วมในรูปแบบประชารัฐ และการสร้างเครือข่ายภาคีการพัฒนา
๒. แนวคิดหลักการวิธีการพัฒนาชุมชนคือการยึดคนเป็นศูนย์กลางการพัฒนาโดยมีความเชื่อว่ามนุษย์ ทุกคนมีความสามารถที่จะพัฒนาตนเองได้ บนพื้นฐานของการช่วยตนเองและการมีส่วนร่วมในการคิด ตัดสินใจปฏิบัติแก้ไขปัญหาของตนเองและชุมชน
๓. หลักการมีส่วนร่วม คือการเปิดโอกาสให้บุคคลได้มีส่วนร่วมในขั้นตอนการดำเนินงานกิจกรรมต่างๆ ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดกระบวนการ พิจารณาตัดสินใจในการปฏิบัติและร่วมรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น