ชื่อเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงสู่สัมมาชีพชุมชน
ชื่อ – นามสกุล นางสาวนัฎธนา สัตย์กุศล
ตำแหน่ง เจ้าพนักงานพัฒนาชุมชนชำนาญงาน
สังกัด สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอโกรกพระ
จังหวัดนครสวรรค์
เนื้อเรื่อง
บ้านหนองตอ
หมู่ที่ ๓ ตำบลหาดสูง อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์
ได้รับการคัดเลือกเพื่อให้เป็นหมู่บ้านต้นแบบในการขับเคลื่อนหมู่บ้านต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง
ตามนโยบายรัฐบาลที่กำหนดให้ส่วนราชการ น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติ
หน่วยงานพัฒนาชุมชน ได้รับมอบแนวนโยบายให้เป็นกลไกหลักในการสนับสนุนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
สู่ชุมชน ผ่านกิจกรรมพัฒนาหมู่บ้านต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียงอยู่เย็น เป็นสุข
โดยพัฒนากรผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ นำความรู้ทางวิชาการ รูปแบบ
และวิธีการทำงานพัฒนาชุมชน สร้างกระบวนการเรียนรู้ในหมู่บ้านเป้าหมาย ให้สามารถเป็นต้นแบบของการ นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติจนเกิดผลเป็นรูปธรรม
การส่งเสริมสนับสนุนหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
เป็นสิ่งที่ก่อเกิดแนวทางการใช้วิถีแบบพอเพียงของคนในชุมชน
ทำให้หลายคนได้รวมตัวกันเพื่อหันมาประกอบอาชีพเสริมสร้างรายได้ จากเวลาที่ว่างจากการประกอบอาชีพหลัก
จึงทำให้เกิดอาชีพขึ้นหลากหลาย เช่น การเลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา เลี้ยงจิ้งหรีด ทำเห็ด
ทำตะกร้าจักสานเชือกมหัศจรรย์ ทำน้ำพริกแกง เป็นต้น
ส่วนขยาย
กระบวนการ/วิธีการ/เทคนิค/ข้อพึงระวังที่ใช้ในการแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน
1.
จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้คณะกรรมการหมู่บ้าน
กลุ่มองค์กร และทีมงานปฏิบัติการระดับหมู่บ้านและตำบล ผู้เข้าร่วมประชุม จำนวน ๓๐
คน
2.
คณะกรรมการหมู่บ้าน
กลุ่มองค์กร และแกนนำ ร่วมกันกำหนดแผนการดำเนินกิจกรรม สนับสนุนส่งเสริมการดำเนินงานของหมู่บ้าน
3.
คณะกรรมการหมู่บ้าน
กลุ่มองค์กร และแกนนำ ร่วมกันดำเนินกิจกรรมตามแผน
โดยมีกิจกรรม ดังนี้
F
การจัดระบบข้อมูลให้มีความถูกต้อง ครบถ้วนนำไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น ข้อมูล จปฐ.
ข้อมูล กชช.2 ค เป็นต้น
F
เป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของภาคีการพัฒนา
F
ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ในการจัดทำ/ติดตามผลการขับเคลื่อนแผนชุมชนให้มีคุณภาพ
โดยการเข้าร่วมประชุมเพื่อขับเคลื่อนแผนชุมชนของหมู่บ้าน/ตำบล
เพื่อการพัฒนาที่ต้องตามความการของประชาชน
F ส่งเสริม
น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปปฏิบัติ โดยส่งเสริมให้ความรู้เกี่ยวกับการลดรายจ่าย
เพิ่มรายได้ เช่น ส่งเสริมการทำน้ำหมักชีวภาพเพื่อบำรุงดิน การปลูกพืชผักสวนครัว
เลี้ยงสัตว์ ในครัวเรือน
การรวมกลุ่มทำอาชีพเสริมของกลุ่มสตรี การส่งเสริมผลิตภัณฑ์ OTOP
F ส่งเสริมระดมทุนในกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่สมาชิกและประชาชนภายในหมู่บ้าน
ในอนาคตไม่ให้เกิดความเดือดร้อน และสามารถนำมาทุนในการในการประกอบอาชีพต่าง ๆ
ได้ด้วย
F ส่งเสริมการบูรณาการให้สมาชิกสามารถเข้าถึงแหล่งทุน
กองทุนหมู่บ้าน (กทบ.) และกลุ่มอาชีพ เพื่อเป็นการลดภาระหนี้ระบบแก่สมาชิกกองทุนต่าง
ๆ โดยการคิดดอกเบี้ยในราคาต่ำ
กรณีที่สมาชิกมีปัญหาจะเป็นที่ปรึกษาให้กับสมาชิกทุกกองทุน โดยเน้นการเข้าถึงแหล่งทุนภายในหมู่บ้านก่อน
เพื่อลดปัญหาหนี้นอกระบบ
F
ประชาสัมพันธ์งานตามนโยบายรัฐบาล/ข่าวสารทางราชการ เมื่อมีข้อราชการจากทางอำเภอ
จะให้ตัวแทน ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารให้แก่สมาชิกและประชาชนทราบโดยทั่วถึงโดยผ่านหอกระจายข่าว
หรือการประชุมประชาคมประจำเดือน
F
การสร้างพลังความเข็มแข็งของคณะกรรมการ ครัวเรือนต้นแบบ เมื่อมีกิจกรรมต่าง ๆ ได้ให้ความร่วมมือ ในการแสดงเพื่อแสดงพลังความสามัคคี
และความแข็งแข็ง
ส่วนสรุป
ผลของการพัฒนา
1. คณะกรรมการหมู่บ้าน และองค์กรภาคี มีความเสียสละรับผิดชอบทั้งงานในหน้าที่และงานที่ เป็นประโยชน์ต่อชุมชน
ปฏิบัติงานด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจจริง ทุ่มเท เสียสละแรงกาย แรงใจ
อย่างเต็มกำลังความสามารถโดยไม่ย่อท้อต่อปัญหาอุปสรรค์ใด ๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ วางไว้ มุ่งหวังประโยชน์สูงสุดของประชาชนและของทางราชการเป็นสำคัญ
2. การมีคุณธรรมและปฏิบัติตนตามวินัยทั้งต่อตนเองและผู้อื่น
ยึดถือระบบคุณธรรมเป็นหลักสำคัญในการดำรงตนและปฏิบัติงานในหน้าที่ ด้วยความเสมอภาคและเป็นกลางโดยไม่ลำเอียง
ยึดถือประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้งหมั่น
เรียนรู้ประสบการณ์ตรงด้วยตนเองทั้งการปฏิบัติ การอ่าน
และ การถามจากผู้รู้
เพื่อพัฒนาทักษะความรู้ความสามารถของตนเองให้เกิดความชำนาญอยู่อย่างสม่ำเสมอ สามารถนำไปใช้ในการตัดสินและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ
3. การร่วมมือของกลุ่มองค์กร ประชาชน และผู้นำ
4. การยึดมั่นในหลักศีลธรรมทางศาสนา
มีหลักการทางประชาธิปไตยในการดำรงชีวิตปฏิบัติ
ตามกฎหมาย ดำรงตนเป็นประโยชน์ต่อสังคม โดยการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
5. การยึดแนวปฏิบัติในการทำงาน โดยยึดหลักความเสมอภาพ หลักสิทธิและเสรีภาพ
การมีส่วนร่วมของประชาชน
ขุมความรู้
ที่การสร้างแนวคิดจนทำให้เกิดการคิดร่วม
เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก แต่หากผ่านการเรียนรู้ถึงแนวทาง การเรียนรู้วิธีทำ เรียนรู้วิธีแก้ไขปัญหา
เรียนรู้วิธีการปันประโยชน์ ก็จะทำให้เกิดเป็นความร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมแก้ไขปัญหา และร่วมรับประโยชน์
กลายเป็นความเข้มแข็งยั่งยืน
แก่นความรู้
“ความสำเร็จเกิดได้เสมอ
หากมีแรงพลังของความสามัคคี”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น