วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

KM : การพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง โดยนางอินทุมาลี ปลื้มประมล


1. ชื่อองค์ความรู้       การพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง                 
2. เจ้าของความรู้       นางอินทุมาลี  ปลื้มประมล                                                                                                                                    
ตำแหน่ง /สังกัด         นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ
                           สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอบรรพตพิสัย  
                           อำเภอบรรพตพิสัย  จังหวัดนครสวรรค์                      
3. องค์ความรู้ที่บ่งชี้   เทคนิคการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
4. ที่มาและความสำคัญในการจัดทำองค์ความรู้
                           ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทย เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่ และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชนจนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนา และบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัฒน์ ชี้แนะแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนในทางที่ควรจะ  เป็น โดยมีพื้นฐานมาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของสังคมไทย สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลา และเป็นการมองโลกเชิงระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัยและวิกฤติ เพื่อความมั่นคงและความยั่งยืน ของการพัฒนา โดยความพอเพียงนั้น หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี และต้องประกอบไปด้วยสองเงื่อนไข คือ เงื่อนไขความรู้ เงื่อนไขคุณธรรม เพื่อนำไปสู่เป้าหมายทางเศรษฐกิจ
สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมเพื่อให้เกิดความสมดุล มั่นคง ยั่งยืน
                            อำเภอบรรพตพิสัย  ได้รับงบประมาณตามยุทธศาสตร์กรมการพัฒนาชุมชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562  ให้ดำเนินโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง  จำนวน 10 หมู่บ้าน  และได้ดำเนินการตามแนวทางที่กรมการพัฒนาชุมชนกำหนด โดยคัดเลือกหมู่บ้านต้นแบบในการขับเคลื่อนตามเงื่อนไขที่กำหนด  โดยใช้แกนนำหมู่บ้าน/ชุมชนเป็นกลไกสำคัญในการสร้างกระบวนการเรียนรู้ในการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ขั้นตอนการดำเนินงานหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ
                            1. ประชุมทำความเข้าใจแก่คณะกรรมการหมู่บ้าน/แกนนำ เพื่อสร้างความเข้าใจขั้นตอน  วิธีการ  และประโยชน์ที่จะได้รับ จากการดำเนินโครงการ 
                            2.  ประชุมทำความเข้าใจกับประชาชนในหมู่บ้าน เพื่อรับทราบถึงประโยชน์ที่จะได้รับ สร้างความร่วมมือของประชาชนในการดำเนินกิจกรรม  และร่วมกันคัดเลือกครัวเรือนพัฒนาเข้าร่วมโครงการ จำนวน  30 ครอบครัว 
                            3. ดำเนินการตามโครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ  4  กิจกรรม ดังนี้
                               กิจกรรมที่ 1ประชุมเชิงปฏิบัติการผู้แทนครอบครัวพัฒนา จำนวน  30 ครัวเรือนครัวเรือน  ให้เรียนรู้วิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง  จำนวน  1  วัน   เพื่อปรับฐานความคิด
                                กิจกรรมที่ 2 นำกลุ่มเป้าหมาย  ศึกษาดูงานหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ (บ้านพี่) เพื่อนำแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และรูปแบบการดำเนินงานมาปรับใช้ 
                               กิจกรรมที่  3.   จัดเวทีสรุปบทเรียน โดยประชุมผู้แทนครอบครัวพัฒนา ประเมินผลการ
-๒-
พัฒนาหมู่บ้านตามเกณฑ์การพัฒนาของกระทรวงมหาดไทย (ด้าน 23 ตัวชี้วัด)  และประเมินความสุขมวลรวมของหมู่บ้าน(GVH)  ครั้งที่ 1 ถอดบทเรียนที่ได้จากการดำเนินกิจกรรม
                            กิจกรรมที่ 4. จัดประชุมผู้แทนครัวเรือนพัฒนา จำนวน 30 ครัวเรือน  สาธิตกิจกรรมการดำรงชีวิตตามแนววิถีชีวิตชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง  เพื่อสร้างทักษะการดำรงชีวิต เช่น การปลูกผักปลอดสาร การแปรรูปเนื้อหมู/หมูฝอย และหมูส้ม เป็นต้น  
                   4. ติดตามการดำเนินงาน  โดยร่วมกับผู้นำ/แกนนำ  ติดตามความก้าวหน้าของครัวเรือนพัฒนา และดูจากสมุดบันทึกการพัฒนาตนเอง
5. ปัญหาที่พบและแนวทางแก้ไขปัญหา
                   ปัญหาที่พบจากการขับเคลื่อนการดำเนินงาน  เนื่องจากอยู่ในห้วงระยะเวลาฤดูการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร  และสภาวะเศรษฐกิจถดถอย  ทำให้ชาวบ้านมาร่วมกิจกรรมได้ไม่เต็มที่ ต้องทิ้งห้วงระยะเวลาการจัดกิจกรรมให้เหมาะสมกับพื้นที่  ทำให้ขาดความต่อเนื่องของการดำเนินกิจกรรม  
6. ประโยชน์ขององค์ความรู้
                  จากการดำเนินการขับเคลื่อนหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ตามขั้นตอนกระบวนการ ซึ่งต้องมีการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหมู่บ้าน/ชุมชน  ประชาชน และภาคีการพัฒนาทำให้เกิดผล  ดังนี้
       1. ประชาชนมีความรัก ความสามัคคี  ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมส่วนรวมมากขึ้น
                  2. ประชาชนในหมู่บ้านมีความเข้มแข็ง พร้อมที่จะพัฒนาตนเอง  นำผลการศึกษาดูงานจากแหล่งเรียนรู้ต้นแบบ  มาพัฒนาครอบครัวตนเองอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม
       3. ครัวเรือนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านมีการดำเนินกิจกรรรมการดำรงชีวิตตามแนววิถีชีวิต
เศรษฐกิจพอเพียงอยู่แล้ว ผลจากการศึกษาดูงานทำให้ชุมชนมีกิจกรรมในการดำเนินชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ที่หลากหลายเพิ่มขึ้น
                  4. ผู้นำหมู่บ้าน/ชุมชน  มีความเข้มแข็ง  สามารถเป็นต้นแบบกับประชาชนในหมู่บ้านได้
7. เทคนิคในการปฏิบัติงาน
                  1. ศึกษาข้อมูลให้ทราบถึงปัญหา ก่อนดำเนินการ มีการสรุปรวบรวมข้อมูล/ปัญหาของหมู่บ้าน/ครัวเรือน เพื่อหาเป็น ข้อมูลพื้นฐานและหาแนวทางแก้ไข
                  2. กำหนดทิศทางการพัฒนา  เมื่อได้ข้อมูล/รับทราบปัญหาแล้ว จัดเวทีปรึกษาหารือเพื่อกำหนดทิศทางในการพัฒนาหมู่บ้านเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ ครัวเรือน กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง โดยมีเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน และหน่วยงานภาคี ร่วมจัดเวที
                   3. กำหนดกิจกรรมการดำรงชีวิตแบบพอเพียงของครัวเรือนในหมู่บ้าน โดย มีกิจกรรมในด้านต่างๆ ได้แก่ กิจกรรมการลดรายจ่าย  เพิ่มรายได้ เช่น การปลูกผักสวนครัวไว้กินเอง  กิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันของคนในชุมชน  การรวมกลุ่มกันทำอาชีพเสริม  การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ เพื่อให้ครัวเรือนลดรายจ่ายในเรื่องต้นทุนการผลิต  เป็นต้น
                   4. มีการจัดทำแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนการดำเนินงาน  เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการปฏิบัติงานอย่างชัดเจน
                    5. มีการสรุปบทเรียนการดำเนินงานทุกขั้นตอน เพื่อให้ทราบถึงผลความสำเร็จ ปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน  เพื่อใช้เป็นคู่มือ/แนวทางขยายผลการดำเนินงานต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น