1. ชื่อองค์ความรู้ การพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
2. เจ้าของความรู้ นางอินทุมาลี ปลื้มประมล
ตำแหน่ง /สังกัด นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ
สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอบรรพตพิสัย
อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์
3. องค์ความรู้ที่บ่งชี้ เทคนิคการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
4. ที่มาและความสำคัญในการจัดทำองค์ความรู้
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล
อดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทย
เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่
และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชนจนถึงระดับรัฐ
ทั้งในการพัฒนา และบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง
โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัฒน์
ชี้แนะแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนในทางที่ควรจะ เป็น
โดยมีพื้นฐานมาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของสังคมไทย สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลา
และเป็นการมองโลกเชิงระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัยและวิกฤติ
เพื่อความมั่นคงและความยั่งยืน ของการพัฒนา โดยความพอเพียงนั้น หมายถึง
ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี
และต้องประกอบไปด้วยสองเงื่อนไข คือ เงื่อนไขความรู้ เงื่อนไขคุณธรรม
เพื่อนำไปสู่เป้าหมายทางเศรษฐกิจ
สังคม สิ่งแวดล้อม
และวัฒนธรรมเพื่อให้เกิดความสมดุล มั่นคง ยั่งยืน
อำเภอบรรพตพิสัย
ได้รับงบประมาณตามยุทธศาสตร์กรมการพัฒนาชุมชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 ให้ดำเนินโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน 10 หมู่บ้าน และได้ดำเนินการตามแนวทางที่กรมการพัฒนาชุมชนกำหนด
โดยคัดเลือกหมู่บ้านต้นแบบในการขับเคลื่อนตามเงื่อนไขที่กำหนด
โดยใช้แกนนำหมู่บ้าน/ชุมชนเป็นกลไกสำคัญในการสร้างกระบวนการเรียนรู้ในการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ขั้นตอนการดำเนินงานหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ
1. ประชุมทำความเข้าใจแก่คณะกรรมการหมู่บ้าน/แกนนำ เพื่อสร้างความเข้าใจขั้นตอน วิธีการ และประโยชน์ที่จะได้รับ จากการดำเนินโครงการ
2. ประชุมทำความเข้าใจกับประชาชนในหมู่บ้าน เพื่อรับทราบถึงประโยชน์ที่จะได้รับ สร้างความร่วมมือของประชาชนในการดำเนินกิจกรรม และร่วมกันคัดเลือกครัวเรือนพัฒนาเข้าร่วมโครงการ จำนวน 30 ครอบครัว
3. ดำเนินการตามโครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ 4 กิจกรรม ดังนี้
กิจกรรมที่ 1. ประชุมเชิงปฏิบัติการผู้แทนครอบครัวพัฒนา จำนวน 30 ครัวเรือนครัวเรือน ให้เรียนรู้วิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน 1 วัน เพื่อปรับฐานความคิด
1. ประชุมทำความเข้าใจแก่คณะกรรมการหมู่บ้าน/แกนนำ เพื่อสร้างความเข้าใจขั้นตอน วิธีการ และประโยชน์ที่จะได้รับ จากการดำเนินโครงการ
2. ประชุมทำความเข้าใจกับประชาชนในหมู่บ้าน เพื่อรับทราบถึงประโยชน์ที่จะได้รับ สร้างความร่วมมือของประชาชนในการดำเนินกิจกรรม และร่วมกันคัดเลือกครัวเรือนพัฒนาเข้าร่วมโครงการ จำนวน 30 ครอบครัว
3. ดำเนินการตามโครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ 4 กิจกรรม ดังนี้
กิจกรรมที่ 1. ประชุมเชิงปฏิบัติการผู้แทนครอบครัวพัฒนา จำนวน 30 ครัวเรือนครัวเรือน ให้เรียนรู้วิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน 1 วัน เพื่อปรับฐานความคิด
กิจกรรมที่ 2 นำกลุ่มเป้าหมาย ศึกษาดูงานหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ
(บ้านพี่) เพื่อนำแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และรูปแบบการดำเนินงานมาปรับใช้
กิจกรรมที่ 3. จัดเวทีสรุปบทเรียน โดยประชุมผู้แทนครอบครัวพัฒนา ประเมินผลการ
กิจกรรมที่ 3. จัดเวทีสรุปบทเรียน โดยประชุมผู้แทนครอบครัวพัฒนา ประเมินผลการ
-๒-
พัฒนาหมู่บ้านตามเกณฑ์การพัฒนาของกระทรวงมหาดไทย
(4
ด้าน 23 ตัวชี้วัด) และประเมินความสุขมวลรวมของหมู่บ้าน(GVH)
ครั้งที่ 1 ถอดบทเรียนที่ได้จากการดำเนินกิจกรรม
กิจกรรมที่ 4. จัดประชุมผู้แทนครัวเรือนพัฒนา
จำนวน 30 ครัวเรือน สาธิตกิจกรรมการดำรงชีวิตตามแนววิถีชีวิตชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อสร้างทักษะการดำรงชีวิต เช่น การปลูกผักปลอดสาร การแปรรูปเนื้อหมู/หมูฝอย และหมูส้ม เป็นต้น
4. ติดตามการดำเนินงาน
โดยร่วมกับผู้นำ/แกนนำ ติดตามความก้าวหน้าของครัวเรือนพัฒนา และดูจากสมุดบันทึกการพัฒนาตนเอง
5. ปัญหาที่พบและแนวทางแก้ไขปัญหา
ปัญหาที่พบจากการขับเคลื่อนการดำเนินงาน
เนื่องจากอยู่ในห้วงระยะเวลาฤดูการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร และสภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้ชาวบ้านมาร่วมกิจกรรมได้ไม่เต็มที่ ต้องทิ้งห้วงระยะเวลาการจัดกิจกรรมให้เหมาะสมกับพื้นที่ ทำให้ขาดความต่อเนื่องของการดำเนินกิจกรรม
6. ประโยชน์ขององค์ความรู้
จากการดำเนินการขับเคลื่อนหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
ตามขั้นตอนกระบวนการ ซึ่งต้องมีการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหมู่บ้าน/ชุมชน ประชาชน และภาคีการพัฒนาทำให้เกิดผล ดังนี้
1. ประชาชนมีความรัก ความสามัคคี ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมส่วนรวมมากขึ้น
2. ประชาชนในหมู่บ้านมีความเข้มแข็ง
พร้อมที่จะพัฒนาตนเอง นำผลการศึกษาดูงานจากแหล่งเรียนรู้ต้นแบบ มาพัฒนาครอบครัวตนเองอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม
3. ครัวเรือนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านมีการดำเนินกิจกรรรมการดำรงชีวิตตามแนววิถีชีวิต
เศรษฐกิจพอเพียงอยู่แล้ว
ผลจากการศึกษาดูงานทำให้ชุมชนมีกิจกรรมในการดำเนินชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ที่หลากหลายเพิ่มขึ้น
4. ผู้นำหมู่บ้าน/ชุมชน มีความเข้มแข็ง สามารถเป็นต้นแบบกับประชาชนในหมู่บ้านได้
7. เทคนิคในการปฏิบัติงาน
1. ศึกษาข้อมูลให้ทราบถึงปัญหา
ก่อนดำเนินการ มีการสรุปรวบรวมข้อมูล/ปัญหาของหมู่บ้าน/ครัวเรือน เพื่อหาเป็น ข้อมูลพื้นฐานและหาแนวทางแก้ไข
2. กำหนดทิศทางการพัฒนา เมื่อได้ข้อมูล/รับทราบปัญหาแล้ว
จัดเวทีปรึกษาหารือเพื่อกำหนดทิศทางในการพัฒนาหมู่บ้านเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ
ครัวเรือน กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง โดยมีเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน
และหน่วยงานภาคี ร่วมจัดเวที
3. กำหนดกิจกรรมการดำรงชีวิตแบบพอเพียงของครัวเรือนในหมู่บ้าน
โดย มีกิจกรรมในด้านต่างๆ ได้แก่ กิจกรรมการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เช่น การปลูกผักสวนครัวไว้กินเอง กิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันของคนในชุมชน การรวมกลุ่มกันทำอาชีพเสริม การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ เพื่อให้ครัวเรือนลดรายจ่ายในเรื่องต้นทุนการผลิต
เป็นต้น
4. มีการจัดทำแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนการดำเนินงาน เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการปฏิบัติงานอย่างชัดเจน
5.
มีการสรุปบทเรียนการดำเนินงานทุกขั้นตอน เพื่อให้ทราบถึงผลความสำเร็จ
ปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน
เพื่อใช้เป็นคู่มือ/แนวทางขยายผลการดำเนินงานต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น