โครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ บ้านมหาโพธิเหนือ”
เจ้าขององค์ความรู้
:
นางวรรณรวี วรรณชาติ
ตำแหน่ง : พัฒนาการอำเภอเก้าเลี้ยว
ตำแหน่ง : พัฒนาการอำเภอเก้าเลี้ยว
สังกัด : สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเก้าเลี้ยว
แนวทางการพัฒนาประเทศไปสู่ความทันสมัย (Modernization) ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแก่สังคมไทยอย่างมากในทุกด้าน
ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม สังคมและสิ่งแวดล้อม
อีกทั้งกระบวนการของความเปลี่ยนแปลงมีความสลับซับซ้อนจนยากที่จะอธิบายใน
เชิงสาเหตุและผลลัพธ์ได้
เพราะการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดต่างเป็นปัจจัยเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน
สำหรับผลของการพัฒนาในด้านบวกนั้น
ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ความเจริญทางวัตถุ
และสาธารณูปโภคต่างๆ ระบบสื่อสารที่ทันสมัย หรือการขยายปริมาณและกระจายการศึกษาอย่างทั่วถึงมากขึ้น
แต่ผลด้านบวกเหล่านี้ส่วนใหญ่กระจายไปถึงคนในชนบท หรือผู้ด้อยโอกาสในสังคมน้อย
แต่ว่า กระบวนการเปลี่ยนแปลงของสังคมได้เกิดผลลบติดตามมาด้วย เช่น
การขยายตัวของรัฐเข้าไปในชนบท ได้ส่งผลให้ชนบทเกิดความอ่อนแอในหลายด้าน
ทั้งการต้องพึ่งพิงตลาดและพ่อค้าคนกลางในการสั่งสินค้าทุน
ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ ระบบความสัมพันธ์แบบเครือญาติ
และการรวมกลุ่มกันตามประเพณีเพื่อการจัดการทรัพยากรที่เคยมีอยู่แต่เดิมแตก สลายลง
ภูมิความรู้ที่เคยใช้แก้ปัญหาและสั่งสมปรับเปลี่ยนกันมาถูกลืมเลือนและเริ่ม
สูญหายไป สิ่งสำคัญ ก็คือ ความพอเพียงในการดำรงชีวิต
ซึ่งเป็นเงื่อนไขพื้นฐานที่ทำให้คนไทยสามารถพึ่งตนเอง
และดำเนินชีวิตไปได้อย่างมีศักดิ์ศรีภายใต้อำนาจและความมีอิสระในการกำหนด
ชะตาชีวิตของตนเอง
ความสามารถในการควบคุมและจัดการเพื่อให้ตนเองได้รับการสนองตอบต่อความต้อง การต่างๆ
รวมทั้งความสามารถในการจัดการปัญหาต่างๆ ได้ด้วยตนเอง
ซึ่งทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นศักยภาพพื้นฐานที่คนไทยและสังคมไทยเคยมีอยู่แต่เดิม
ต้องถูกกระทบกระเทือน ซึ่งวิกฤตเศรษฐกิจจากปัญหาฟองสบู่และปัญหาความอ่อนแอของชนบท
รวมทั้งปัญหาอื่นๆ ที่เกิดขึ้น ล้วนแต่เป็นข้อพิสูจน์และยืนยันปรากฏการณ์นี้ได้เป็นอย่างดี
หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำรัส ที่แนะแนวทางในการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทย
ทรงชี้ถึงการปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน
จนถึงระดับรัฐ ในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปใน "ทางสายกลาง"
โดยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานพระบรมราโชวาทแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงเป็นครั้งแรกในปี
พ.ศ. 2517 ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ใจความสำคัญว่า
"... ในการพัฒนาประเทศนั้นจำเป็นต้องทำตามลำดับขั้นเริ่มด้วยการสร้างพื้นฐาน
คือความมีกินมีใช้ของประชาชนก่อน ด้วยวิธีการที่ประหยัด
ระมัดระวังแต่ถูกต้องตามหลักวิชา เมื่อพื้นฐานเกิดขึ้นมั่นคงพอควรแล้ว
จึงค่อยเสริมสร้างความเจริญขั้นที่สูงขึ้นตามลำดับต่อไป
การถือหลักที่จะส่งเสริมความเจริญให้ค่อยเป็นค่อยไปตามลำดับด้วยความรอบคอบ
ระมัดระวังและประหยัดนั้นก็เพื่อป้องกันการผิดพลาดล้มเหลวและเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จได้แน่นอนบริบูรณ์..."
(สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, 2550)
ซึ่งกรมการพัฒนาชุมชน
ได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้ในการส่งเสริมการดำเนินชีวิต
ทั้งในระดับบุคคล ระดับครอบครัว และระดับหมู่บ้าน ทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2549
และสนับสนุนหมู่บ้านที่มีความพร้อมพัฒนาเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบตั้งแต่ปี
2552 ความพอเพียงจะต้องประกอบด้วย 3 คุณลักษณะ ดังนี้
1. ความพอประมาณ หมายถึง
ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไป และไม่มากเกินไปโดยไม่เบียดเบียนตนเอง และผู้อื่น
เช่นการผลิต และการบริโภคที่อยู่ในระดับพอประมาณเป็นต้น
2. ความมีเหตุผล หมายถึง
การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล
โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้นๆ
อย่างรอบคอบ
3. การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง
การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบ และการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ
ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่างๆ
ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้ และไกล
การตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ
ให้อยู่ในระดับพอเพียงนั้น ต้องอาศัยทั้งความรู้ และคุณธรรมเป็นพื้นฐาน 2 เงื่อนไข
ดังนี้
เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วย
ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน
ความรอบคอบที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผน
และความระมัดระวังในขั้นปฏิบัติ
เงื่อนไขคุณธรรม
ที่จะต้องเสริมสร้างประกอบด้วย มีความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต
และมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต นำไปสู่ เศรษฐกิจ สังคม
สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ที่สมดุลพร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลง
ซึ่งหมู่บ้านและชุมชนสามารถบริหารจัดการตนเองตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ให้เป็นหมู่บ้าน "อยู่เย็นเป็นสุข" ตามยุทธศาสตร์ของกรมการพัฒนาชุมชน
ซึ่งยึดหลักตามแนวทางของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11
เมื่อดำเนินการแล้ว จะต้องเป็นหมู่บ้านและชุมชน 3 ไม่ 2 มี คือ ไม่มียาเสพติด
ไม่มีคนยากจน ไม่มีหนี้นอกระบบ มีสวัสดิการชุมชน
มีการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมการพัฒนาชุมชน, 2558)
บ้านมหาโพธิเหนือ หมู่ที่ 5 ตำบลมหาโพธิ
อำเภอเก้าเลี้ยว จังหวัดนครสวรรค์
เป็นหมู่บ้านที่ได้รับการคัดเลือกให้ดำเนินการเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนโครงการ
หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ ระดับ “พออยู่ พอกิน” ปีงบประมาณ 2555
มีขั้นตอนการขับเคลื่อนกิจกรรมตามโครงการฯ
ดังนี้
๑.
ประชุมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมครอบครัวพัฒนา จำนวน ๓๐ ครัวเรือน
ด้วยการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการการเรียนรู้วิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง
ประชุมเชิงปฏิบัติการ การสัมมนาและศึกษาดูงานการดำรงชีวิตตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง
๒. ประชุมเชิงปฏิบัติการเรียนรู้ตนเองและกำหนดเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยการฝึกปฏิบัติการจัดทำแผนชีวิตของครัวเรือนตัวอย่าง
๓๐ ครัวเรือน
๓. ประชุมเชิงปฏิบัติการ/สาธิตกิจกรรมลดรายจ่าย
ในการดำรงชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงระดับพออยู่ พอกิน
- สาธิตกิจกรรมลดรายจ่าย โดยการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงกบ
และการปลูกผักสวนครัว
๔.
ประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเสริมสร้างระบบการบริหารจัดการชุมชนและการเรียนรู้เรื่อง
การพัฒนาประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
และการสร้างความสมานฉันท์สามัคคีของหมู่บ้าน
๕.
ประชุมเชิงปฏิบัติการการจัดการความรู้ วิธีการปฏิบัติการพัฒนาหมู่บ้าน
เพื่อติดตามและประเมินผลความสุขมวลรวมของชุมชนและการจัดการความรู้
ทักษะที่ต้องมี และนำไปใช้ : การเป็นวิทยากรกระบวนการ
ความรู้เรื่องแนวทางการดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง
เรียนรู้วิถีชีวิตของคนในหมู่บ้านท่าดินแดง มาเป็นข้อมูลพื้นฐานในการวิเคราะห์
สถานการณ์ ของชุมชน การมองปัญหาและการค้นหาปัญหาอย่าง รอบด้าน
และทักษะในการประยุกต์ใช้วัสดุอุปกรณ์ในพื้นที่เป็นแหล่งเรียนรู้ในการดำเนินการ
การโน้มน้าวและการสร้างแรงจูงใจในการพัฒนาชุมชนของตนเองอย่างต่อเนื่อง
โดยอาศัยแนวทางและกระบวนการของนักจัดการความรู้การเล่าเรื่องราวจากอดีต
ปัจจุบันและความคาดหวังที่จะให้เกิดขึ้นในอนาคต
ในการดำเนินการขับเคลื่อนหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ
ระดับ “พออยู่ พอกิน” บ้านมหาโพธิเหนือ หมู่ที่ 5 ตำบลมหาโพธิ
มีองค์กรต่างๆที่มีส่วนร่วม ประกอบด้วย
๑. องค์การบริหารส่วนตำบลมหาโพธิ
๒. เกษตรประจำตำบลมหาโพธิ
3. กศน.ประจำตำบลมหาโพธิ
4. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
สาขาเก้าเลี้ยว
เทคนิคในการขับเคลื่อนหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ
บ้านมหาโพธิเหนือ
๑. มีการพัฒนาหมู่บ้าน
โดยการขับเคลื่อนของคณะกรรมการหมู่บ้าน ครัวเรือนต้นแบบ
และการประสานความร่วมมือของภาคีการพัฒนาทุกภาคส่วน
๒. การขอรับการสนับสนุนของหน่วยงานภาครัฐ
และภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็นด้านงบประมาณ หรือด้านวิชาการ
การมีวิสัยทัศน์ในการทำงานของคณะกรรมการ
แก่นความรู้ ที่ได้จากการขับเคลื่อนหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ
บ้านมหาโพธิเหนือ
๑.
การประสานความร่วมมือระหว่างส่วนราชการท้องที่ ,ท้องถิ่น
ภาคเอกชนและคณะกรรมการหมู่บ้าน
๒.
การพัฒนาการเรียนรู้ในเรื่องเทคโนโลยี
ตลอดจนเทคนิคใหม่ๆในการวิเคราะห์สถานการณ์ชุมชน
๓.
การดำเนินวิถีชีวิตตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการมีส่วนร่วม ช่วยเหลือ
เอื้ออารีต่อกัน
อยู่อย่างประชาธิปไตย
อยู่อย่างประชาธิปไตย
4. เกิดกลยุทธ์ในการทำงาน คือการสร้างความเข้าใจ
ทัศนคติ และความสัมพันธ์ที่ดีกับคณะกรรมการและสมาชิกในชุมชน ส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทในการพัฒนา
โยการเป็นองค์กรภาคีร่วมกัน ภายใต้แนวคิด ทฤษฏีที่สอดคล้องกับแก่นความรู้ ในเรื่องของการใช้
กระบวนการมีส่วนร่วม ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เครือข่าย และ ชุมชน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น